เมื่อเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว รัฐบาลจีนได้สั่งการให้จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนยุติการทำเหมืองโดยเด็ดขาด โดยอ้างถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้นักขุดที่จีนต้องอพยพ และย้ายไปอยู่ประเทศที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมการขุดมากกว่า
แต่ตอนนี้ประเทศจีนกลับสู่ตำแหน่งศูนย์กลางการทำเหมือนคริปโตอันดับหนึ่งของโลกอีกครั้ง แม้ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกวาดล้างไปเมื่อปีที่แล้ว
มีข้อมูลใหม่รายงานเกี่ยวกับการขุด BTC ทั่วโลก ระบุว่า จีนกลับสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขุด Bitcoin อีกครั้ง โดยร่วมมือกันกับ Pool เหมืองขุด Poolin, ViaBTC, BTC.com และ Foundry ซึ่งตอนนี้จีนอยู่อันดับที่สองรองจากสหรัฐฯ หลังจากที่รัฐบาลจีนได้แบนการขุดเหมืองคริปโตไปเกือบหนึ่งปี
จีนกลับมาเป็นผู้นำด้านการขุดเหมืองในรอบหนึ่งปีอีกครั้ง โดยส่วนแบ่งกำลังการขุดอยู่ที่ 21.1% อันดับที่สอง คือ คาซัคสถาน อยู่ที่ 13.22%, แคนาดา อยู่ที่ 6.48% และรัสเซีย อยู่ที่ 4.66% ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำ เพราะความมั่นคงในฐานะด้วยส่วนแบ่งกำลังการขุดอยู่ที่ 37.84% จากกิจกรรม Hash Rate ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการปราบปรามการขุดเหมืองขอรัฐบาลจีน ส่งผลกระทบต่อการกระจายตัวของอัตรา Hash Rate ตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในทั่วโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพัฒนาเชิงบวกสำหรับการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและหลักการกระจายอำนาจของ Bitcoin นั่นเอง