วันนี้ราคา BTC ดูเหมือนจะปรับตัวลงอย่างอย่างหนัก เพราะแรงกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในการประชุมสัปดาห์หน้า
และนักลงทุนยังคงวิตกกับสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย นายเซอร์เก ลาฟรอฟ ออกมาเตือนว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน อาจจะลุกลามไปถึงเหตุการณ์สงครามนิวเคลียร์ และทั่วโลกกำลังจับจ้องไปที่การประชุมนโยบายการเงินของ FED ในวันที่ 3-4 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
หลังประธาน FED นายเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณว่า เขาสนับสนุนให้ FED ดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อจะจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมระบุว่า FED มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม นับเป็นครั้งแรกที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตั้งแต่ปี 2543 หรือคิดเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 30 ปี และ FED อาจขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึง 3% ภายในสิ้นปีนี้ และต่อเนื่องไปถึง 3.5% ในกลางปีหน้า
อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ถือเป็นรอบที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี และอาจฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างรุนแรงจนเข้าสู่สภาวะถดถอย
และอย่างที่ทราบกันว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กับ Bitcoin มีความสัมพันธ์แปรผกผัน ก่อนหน้านี้ที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาของ BTC มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในทิศทางตรงข้ามกับปัจจุบัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์มีการฟื้นตัว ราคา BTC ก็จะร่วงลงอย่างเสมอ แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่า Bitcoin จะสามารถแยกตัวออกจากความสัมพันธ์นี้ได้ในระยะยาว
