Table of Contents
Table of Contents

เทคนิค การเลือกหุ้นที่ดี วิธีไหนปัง

แน่นอนว่าการเข้ามาในการตลาด หลายคนก็มักจะหาวิธีการต่าง ๆ ในการชนะตลาด ซึ่งการเลือกหุ้นถือเป็นอีก 1 เรื่องที่สำคัญมาก ๆ ก่อนการลงทุน การเลือกหุ้นไม่ใช่สิ่งที่ยากแต่ การเลือกหุ้นที่ดี นั้นถือเป็นเรื่องยากพอสมควร เนื่องจากเราต้องศึกษาข้อมูลหลากหลายด้านเพื่อประกอบการตัดสินใจ

แล้วหุ้นแบบไหนถึงจะเป็นหุ้นที่ดีและเราควรค่าแก่การซื้อ เดี๋ยววันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า เทคนิคการเลือกหุ้นที่ดี วิธีไหนปังการเลือกหุ้นที่ดี สามารถดูได้จาก ประวัติย้อนหลัง 3 – 5 ปีของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสิ่งที่เราควรให้ความสนใจมีประเด็นดังนี้ 

1. ธุรกิจมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน

ซึ่งต้องมองถึงภาพในอนาคตของบริษัท ความได้เปรียบด้านการแข่งขันจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต ซึ่งอาจไม่ต้องเป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สองของอุตสากรรมนั้น ๆ แต่ควรมีจุดแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่ง ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อยรายยิ่งดี เพราะบริษัทจะมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูงครับ

2.การเลือกหุ้นที่ดี กิจการมีเติบโตต่อเนื่อง

การเลือกหุ้นที่ดี

เช่น การมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง 3 – 5 ปี ก็ถือว่ามีแนวโน้มไปต่อได้ ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ที่สำคัญ เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ การดำเนินกิจการในอนาคตด้วย

3. การเลือกหุ้นที่ดี ต้องมีกำไรอย่างสม่ำเสมอ

ไม่มีปัญหาขาดทุน บริษัทที่ดีควร มีกำไรอย่างสม่ำเสมอในทุกขั้นตอน พยายาม หลีกเลี่ยงหุ้นของบริษัทที่ขาดทุนต่อเนื่องหรือปีเว้นปี เพราะนอกจากราคาจะปรับตัวขึ้นได้ยากแล้ว ยังไม่มีเงินเหลือมาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกด้วย แต่บางครั้ง “การขาดทุน” อาจเกิดจากการที่บริษัทนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมหรือนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้วอาจส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว ควรจะต้องพิจารณากันอีกที 

4.การเลือกหุ้นที่ดี หนี้สินไม่เยอะ 

สิ่งที่ควรระวัง คือ การมีหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจทำให้บริษัทมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ และเกิดปัญหาต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น บางบริษัทมีหนี้สินสะสมพะรุงพะรังอยู่ได้จากการกู้หนี้ระยะสั้นไปโปะหนี้ระยะยาวส่งผลให้ “อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน” (D/E Ratio) มากจนเกินไป หากวันใดขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาทันที

5. กำไรสะสมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ถือเป็นการการันตีความก้าวหน้า หากบริษัทมีกำไรสะสม เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะสะท้อนความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิต และประสิทธิภาพการจัดจำหน่ายที่ดี หลายบริษัทมีการพัฒนา องค์ความรู้ต่อเนื่อง จนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทำให้กำไรต่อหน่วยสูงขึ้นตาม แบบนี้ย่อมป็นผลดีต่อผู้ลงทุน เพราะกำไรที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลต่อเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นด้วย และยังสามารถนำกำไรไปขยายกิจการให้เติบโตต่อไปได้อีก

6. ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี

เพราะต้นทุนจะส่งผลโดยตรงต่อกำไร ซึ่งนักลงทุนสามารถดูต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงานได้จากงบกำไรขาดทุน โดยกรณีที่ยอดขายเพิ่ม แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เชื่อว่าบรรดานักลงทุน ยังพอรับไหว แต่หากยอดขายลดลง สวนทางกับต้นทุน แสดงว่าบริษัทกำลังมีปัญหาในการดำเนินงาน

7.สภาพคล่องต้องดี

ต้องมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เพื่อเตรียมพร้อมในการจ่ายหนี้ระยะสั้น รวมถึงสามารถขายสินค้าและเก็บเงินลูกหนี้ ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย

8.ผู้บริหารที่ดี มีวิสัยทัศน์ 

การเลือกหุ้นที่ดี

ควรเลือกที่ผู้บริหารมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย ซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้น เพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงไม่มีข่าวในเชิงลบบ่อย ๆ ทั้งเรื่องทางธุรกิจและเรื่องส่วนตัว

จากที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าเราสามารถค้นหาหุ้นแบบนี้เจอ เชื่อว่าการทำกำไรในตลาดหุ้นคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อย่าลืมค้นหาหุ้นที่ดีก่อนตัดสินใจซื้อลงทุนนะครับ 

———————————————————————————————————————————————————————————————

Source: Traderbobo

อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –