Gap ในตลาด Forex ก็คือ “ช่องว่าง” ของกราฟราคาที่เกิดความผันผวน ซึ่งสิ่งนี้อาจเกิดจากความไม่บาลานซ์ของ demand และ supply หรือบริเวณของราคาในกราฟที่ไม่มีการซื้อ-ขายเกิดขึ้น หรืออธิบายง่ายๆก็คือ ราคาที่ไม่มีการเทรดนั่นเอง
รูปแบบของ Gap
สามารถแบ่ง Gap ได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
1.Common gap
เป็น Gap ที่เกิดขึ้นปกติทั่วไป รูปแบบธรรมดา ไม่มีนัยสำคัญอะไร โดยทั่วไปเมื่อเกิด Gap ขึ้นแล้ว จากนั้นไม่นานนักก็จะถูกปิด Gap ทันที
การเทรด :
นักเทรดสามารถเปิดออเดอร์ตรงกันข้ามเมื่อเกิด Gap นี้เกิดขึ้นได้ โดยคาดการณ์ว่าราคาจะกลับมาปิด Gap ดังกล่าว
2.Breakaway gap
เป็น Gap ที่เกิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนแนวโน้ม และเป็น Gap ประเภทที่พบได้ไม่บ่อยนักซึ่งมักจะเกิดในช่วงที่ราคาทะลุผ่านแนวรับ หรือแนวต้านสำคัญๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งปกติ Gap นี้เวลาเกิดขึ้นมักจะไม่มีการลงมาปิด
การเทรด:
เป็นการคาดการณ์ก่อน ในช่วงที่ราคาฟอร์มตัวอย่างชัดเจน ปกตินักเทรดควรเปิดออเดอร์ก่อนที่ Gap นี้จะเกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้น หากเกิด Breakaway gap เกิดขึ้น ถ้าไปเปิดออเดอร์ตาม อาจจะไม่ทัน
3.Exhaustion gap
เป็น Gap ที่แสดงถึงการจบของแนวโน้ม ที่มีปริมาณการซื้อขายที่สูงมาก ประกอบด้วยราคาที่มีการลดลงอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง. โดยเป็นช่วงสุดท้ายของแนวโน้มนั้น ราคาจะกระโดดเปิด Gap ขึ้นมาเพื่อขึ้นทำจุดสูงขึ้นของรอบ หรือจุดต่ำสุดของรอบ และมาปิดภายในไม่กี่วัน
การเทรด:
เมื่อสถานะตรงข้ามเกิด Gap นี้ โดยวาง Stop loss เหนือ High หรือ Low ที่เกิดขึ้น
4. Runaway gap
เป็น Gap ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างกลางแนวโน้ม เป็นการบ่งบอกทิศทางของแนวโน้มในช่วงนั้นและมักจะมีการซื้อขายด้วยปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นตามมา
การเทรด:
โดยปกติแล้ว Runaway Gap นี้ไม่สามารถเทรดได้ แต่อาจสามารถเพิ่ม Position ของเดิมได้
การตีความ Gaps ในการเทรด จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าการเกิด Gaps นั้นจะสามารถระบุสถานที่เกิดได้ง่าย แต่ Gap ยังมีข้อจำกัดอยู่ เพราะมันเกิดหลังจากสิ้นสุดสัปดาห์ ซึ่งความสามารถในการวิเคราะห์ประเภทของ GAP เพราะถ้าหากคุณวิเคราะห์ประเภทของมันผิด ย่อมนำไปสู่การตีความผิดพลาด และนำไปสู่ผลการเทรดที่ขาดทุนได้