กลับมาพบกันอีกเช่นเคย ในบทความเกี่ยวกับคำศัพท์ในตลาด Forex ซึ่งคำศัพท์เหล่านี้ทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คนคิดว่าการเทรด Forex นั้นเอ็นเรื่องยาก เพราะต้องศึกษาคำศัพท์เฉพาะที่คนในวงการเท่านั้น ถึงจะรู้ความหมาย ไม่ว่าจะเป็นคำว่า Pip Point , Lot size , Spread , Margin , Margin call , Stop loss , Take profit หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
โดยวันนี้ผมจะเน้นไปที่ความหมายของคำว่า Pip Point ก่อนนะครับ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่า Pip Point ในตลาด Forex นั้น หมายถึงอะไรและมีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาศึกษาในตลาด Forex อาจจะเข้าไปเรียนรู้จากวีดิโอต่าง ๆ ใน Youtube บางท่านก็จะใช้คำว่า “ปิ๊บ” (Pip) และบางท่านใช้คำว่า “จุด” (Point) ซึ่งอาจจะทำให้มือใหม่เกิดความสับสนได้ระหว่างคำสองคำนี้
ด้วยเหตผลนี้เอง ทำให้ผมได้หยิบยกมาเขียนเป็นบทความนี้ ให้ทุกท่านได้อ่าน พร้อมยกตัวอย่างกราฟเพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
Pip Point คืออะไร
โดยคำว่า Pip ย่อมาจาก Price Interest Point คือหน่วยสำหรับใช้วัดความเคลื่อนไหว หรือการเปลี่ยนแปลงของค่าสกุลเงินต่าง ๆ ในตลาด Forex ส่วนคำว่า Point ก็คือหน่วยที่ใช้นับการเปลี่ยนแปลงของค่าสกุลเงินที่มีการเคลื่อนไหวต่อ 1 จุด นั่นเองครับ ซึ่งคำว่า Pip และคำว่า Point ที่มีความหมายว่าเป็นหน่วยที่ใช้วัดการเคลื่อนที่ของกราฟเหมือนกัน แต่ตำแหน่งของ 2 คนนี้ จะมีความแตกต่างกันดังนี้ครับ
Pip Point แตกต่างกันอย่างไร
ความหมายข้างต้น ที่คุณได้อ่านนั้น คงจะเกิดคำถามแล้วใช่ไหมครับ ว่า 2 คำนี้มันมีความแตกต่างกันอย่างไร ?
ซึ่งคำว่า Pip กับคำว่า Point ถึงแม้จะเป็นหน่วยสำหรับวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์เหมือนกันก็ตาม แต่ทั้งสองก็มีจุดต่างกันตรงที่ Pip จะใช้เรียกเลขทศนิยมตำแหน่งที่ 4 ส่วน Point นั้น จะใช้เรียกทศนิยมตำแหน่งที่ 5
ตัวอย่างการดูค่า Pip Point ในกราฟ Forex
ตัวอย่างการดูค่า Point ในกราฟ Forex
มาเริ่มกันที่ตัวอย่างแรกเลยครับ นั่นคือตำแหน่ง Point หรือ จุด เป็นหน่วยที่ใช้วัดการเคลื่อนที่ของกราฟในทศนิยมตำแหน่งที่ 5 ของราคา ขอยกตัวอย่างจากรูปภาพข้างต้น เช่น ให้คู่สกุลเงิน EUR/USD ราคาเคลื่อนที่จาก 1.02255 ไปยัง 1.02256 แบบนี้จะเรียกว่า ราคา EUR/USD เคลื่อนที่ไป 1 Point หรือ 1 จุด และเมื่อราคาเคลื่อนที่จาก 1.02255 ไปยัง 1.02265 แบบนี้จะเรียก ราคา EUR/USD คลื่อนที่ไป 10 Point หรือ 10 จุดครับ
ตัวอย่างการดูค่า Pip ในกราฟ Forex
ต่อกันด้วยตัวอย่างที่สอง คือค่า Pip หรือ ปิ๊บ เป็นหน่วยที่ใช้วัดการเคลื่อนที่ของกราฟในทศนิยมตำแหน่งที่ 4 ของราคา โดยจะขอยกตัวอย่างเป็นคู่ EUR/USD ให้ดูตามภาพเหมือนเดิม เมื่อราคาเคลื่อนที่จาก 1.02255 ไปยัง 1.02265 แบบนี้จะเรียกว่า ราคา EUR/USD เคลื่อนที่ไป 1 Pip และเมื่อราคาเคลื่อนที่จาก 1.02255 ไปยัง 1.02355 แบบนี้จะเรียกว่าราคา EUR/USD เคลื่อนที่ไป 10 Pip นั่นเองครับ
จากตัวอย่างทั้ง 2 ตัวอย่างข้างต้น ก็หวังว่าทุกท่านจะพอเห็นภาพกันมากขึ้นแล้วนะครับ กับการดูการเคลื่อนที่ของตำแหน่ง Pip Point แต่มันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ครับ ในตลาด Forex นั้น มีหลากหลายคู่สกุลเงิน และมีบางคู่สกุลเงินที่มีจุดทศนิยมไม่ถึง 5 ตำแหน่ง เช่น คู่สกุลเงิน USD/JPY และคู่สกุลเงิน CHFJPY ครับ แล้วเราจะสามารถดูค่า Pip , Point ของคู่สกุลเงินเหล่านี้ได้อย่างไร ?
การดูค่า Pip Point ของคู่สกุลเงินที่มีทศนิยมไม่ถึง 5 ตำแหน่ง
การดูคู่สกุลเงินที่มีทศนิยมไม่ถึง 5 ตำแหน่ง เช่น USD/JPY ที่มีทศนิยมเพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้น โดยการนับค่า Pip , Point นี้เราจะนับ “จุดทศนิยมตัวที่ 2” ว่าเป็นค่า Pip และ “ทศนิยมตัวที่ 3” ว่าเป็นค่า Point เช่น เมื่อราคาเคลื่อนที่จาก 138.200 ไปยัง 138.300 แบบนี้จะเรียกว่า ราคา USD/JPY เคลื่อนที่ไป 10 Pip และเมื่อราคาเคลื่อนที่จาก 138.200 ไปยัง 138.210 แบบนี้จะเรียกว่าราคา USD/JPY เคลื่อนที่ไป 10 Point นั่นหมายความว่า 1 Pip ก็จะยังคงมีค่า 10 Point เหมือนเดิมกับคู่สกุลเงินที่มีทศนิยม 5 ตำแหน่งครับ
สรุปความแตกต่างของค่า Pip และ Point
Pip และ Point ทั้ง 2 คำนี้ ต่างก็เป็นหน่วยสำหรับวัดค่าการเคลื่อนที่ของสกุลเงินในตลาด Forex ทั้งสิ้น แต่จะแตกต่างกันที่จุดทศนิยม โดยให้คุณจำง่าย ๆ ว่า
1 Point = ทศนิยมตัวสุดท้าย
1 Pip = ทศนิยมตัวที่ 4 หรือ 2 (ขึ้นอยู่กับทศนิยมของแต่ละคู่สกุลเงิน ว่ามี 3 หรือ 5 ตำแหน่ง)
และจำไว้ว่า 10 Point มีค่าเท่ากับ 1 Pip เสมอครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการทำความเข้าในค่า Pip Point ที่หลายคนสงสย และสับสนมานาน พอคุณได้เข้ามาอ่านบทความนี้ของผมแล้ว ก็หวังว่าจะทำให้คุณปลดล็อคความเข้าใจได้ง่ายขึ้นนะครับ และต้องยอมรับว่าทุกวันนี้กระแสการลงทุนในยุคนี้ถือว่ามาแรงมาก ๆ
สุดท้ายนี้ หากคุณเป็นคนที่มีความสนใจในการลงทุน ผมได้เขียนบทความสาระดี ๆ ไว้อีกมากมาย เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาอ่านใน Knowledge กันแบบฟรี ๆ
แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไป ขอบคุณครับ
Source: Gotradehere