สำหรับการประชุมเฟดนั้นได้รับความสนใจจากสาธารณชนมาโดยตลอด ยิ่งตั้งแต่ที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปี 2565 ที่ส่งผลต่อทุกตลาดการลงทุน เพราะตั้งแต่ถูกปรับอัตราดอกเบี้ยให้ขึ้นไปอยู่ที่ 0.75% ในวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 2.25 – 2.50 % เลยทีเดียว
ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประชุมเฟดได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 1% เป็น 1.65% การประกาศนั้นก็ทำให้เศรษฐกิจโลกสั่นสะเทือนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคของการลงทุนและตลาด Cryptocurrency เนื่องจาก Bitcoin ร่วงต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐหลังการประชุม (ตามรายงานของ CoinMarketCap) หลังจากที่ Bitcoin เคยขึ้นไปทำ ATH ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา
แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับการประชุม FED เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า FED คืออะไร?
FED คืออะไร ?
Fed ย่อมาจาก Federal Reserve System เป็นธนาคารกลางของสหรัฐที่สร้างขึ้นโดยสภาคองเกรสเพื่อรักษาเศรษฐกิจของประเทศ
Federal Reserve System (Fed) เป็นธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาที่ส่งเสริมนโยบายการเงินสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องมีการผลักดันให้เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาครับ เนื่องจากว่าเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก
จุดประสงค์และเป้าหมายของ Federal Reserve ก็เพื่อรักษาระบบการเงินที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และมีความยืดหยุ่น โดยมีกรรมการผู้ว่าการในฐานะหน่วยงานรัฐบาลอิสระในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นอกจากนี้ยังมีธนาคารกลางระดับภูมิภาค 12 แห่งด้วยกัน
นอกจากนี้ Fed ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินนโยบายการเงิน, กำกับดูแลธนาคาร, รักษาเสถียรภาพทางการเงิน และให้บริการด้านการธนาคารแก่บริษัทที่ถือครองธนาคาร รัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรระหว่างประเทศอีกด้วย
แล้วประชุม FED คืออะไรกันแน่ ?
การประชุมเฟด (FOMC) จัดขึ้นอย่างน้อยปีละ 8 ครั้ง เพื่อทบทวนสภาพเศรษฐกิจและการเงินเพื่อปรับปรุงและหาทางออกที่ดียิ่งขึ้นสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ครับ การประชุมเฟดเรียกอีกอย่างว่า การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐ (FOMC) เมื่อมีการอัปเดตนโยบายการเงิน ที่ประชุมจะทบทวนสภาพเศรษฐกิจและการเงิน และประเมินเสถียรภาพของราคาและการจ้างงาน อย่างที่เราอาจจะได้เห็นว่า มีการประกาศค่าต่าง ๆ ของทางสหรัฐฯ ออกมาอยู่เสมอ อย่างเช่นตัวเลข Nonfarm Payrolls ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคาดการณ์และวางแผนทางเศรษฐกิจและการเงิน
FOMC มีการประชุมเป็นประจำโดยจะประชุมปีละ 8 ครั้งเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็จะมีการประชุมเพิ่มเติมตามความจำเป็น ทุก ๆ สามสัปดาห์ก่อนการประชุมครับ เพราะอาจจะมีการประกาศวาระนโยบายการเงิน
การประชุมประกอบด้วยสมาชิก 12 คน: สมาชิก 4 คนจาก Federal Reserve Bank, ประธาน Federal Reserve Bank of New York และ 4 คนซึ่งมาจากธนาคารกลาง
คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะประชุมกันปีละ 6 ครั้ง โดยการประชุมแต่ละครั้งจะสรุปผลการประชุมซัมมิตทางเศรษฐกิจ (SEPs) ทั้งหมด 4 ครั้ง และปิดท้ายด้วยการเจรจาตามแผนนั่นเอง
การประชุม FED ส่งผลกระทบต่อตลาด Crypto อย่างไร ?
คราวนี้เรามาดูผลกระทบจากการประชุมของ FED บ้างดีกว่าครับ เนื่องจากเมื่อ Fed เพิ่มอัตราดอกเบี้ย มูลค่าของเงิน Fiat จะลดลง ซึ่งหมายความว่าการลงทุนในตลาด Crypto จะลดลงด้วยเช่นกัน
การประชุมเฟดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลต่อความผันผวนในตลาด เพราะไม่ว่าจะประกาศออกมาในทิศทางไหน ก็จะยังคงมีความไม่มั่นใจจากนักลงทุนแฝงอยู่ด้วยเสมอ (เพราะส่วนใหญ่แล้ว เสียงส่วนมากจะแตกออกเป็น 2 ด้าน อย่างเช่น คาดการณ์ว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้น อีกฝ่ายก็คาดว่าไม่ขึ้น เมื่อ FED ประกาศออกมาไม่ว่าจะไปทางใด ก็จะได้รับผลกระทบจากอีกฝั่งนั่นเอง)
ยิ่งถ้าหาก FED ประกาศเพิ่มดอกเบี้ยก็จะก่อให้เกิดความกังวลและความไม่เชื่อใจจากนักลงทุนในทุกตลาดการเงิน จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีการเทขายสินทรัพย์จนทำให้ราคาลดลงครับ เพราะฉะนั้นการประชุม FED ทุกครั้งจึงเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลกเลยทีเดียว
Cryptocurrency มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ทนต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่อันที่จริงก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มตราสารที่ได้รับผลกระทบไม่ต่างกับตลาดอื่นเลย เนื่องด้วยความเชื่อมั่นใน Cryptocurrency นั้นลดน้อยลง (จะเห็นได้ชัดจากราคาที่ลดลงมากจากปีที่แล้วนะครับ เพราะราคาของ Crypto ขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทานโดยแท้จริง)
ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยโดย FED หรือผลของการประชุมในแต่ละครั้งนั้นล้วนส่งผลกระทบต่อตลาด Crypto ด้วยครับ
Source : Zipmex
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker