Cryptocurrency ยังอยู่ในท่ามกลาง ภาวะกระทิง (major bull) ที่สำคัญโดย Bitcoin ที่อาจจะกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล ทำให้เกิดความวิตกกังวลด้านความปลอดภัยของการจัดเก็บข้อมูลด้วยตนเองของสกุลเงินดิจิทัล
และเรามีขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสกุลเงินดิจิทัลของคุณเช่น Bitcoin ปลอดภัยในตลาดกระทิง(Bull market) ตอนนี้
1. ใช้ paper wallet หรือ hardware wallet
เนื่องจาก Bitcoin อนุญาตในการ “เป็นธนาคารของคุณเอง” ความรับผิดชอบในการจัดเก็บ crypto ส่วนใหญ่จึงอยู่ที่ผู้ใช้ ด้วยวลียอดฮิตที่ว่า “Not your keys, not your Bitcoin” หมายความว่า ใครก็ตามที่ถือ key phrase ในกระเป๋าสตางค์ ก็คือคนที่ควบคุมเหรียญที่อยู่ในนั้น
กระเป๋าสตางค์แบบ paper crypto wallet โดยพื้นฐานแล้วเป็นกระดาษที่มีที่อยู่ crypto ที่พิมพ์ออกมาและ private key ในรูปแบบของ QR codes ที่สร้างขึ้นผ่านเว็บไซต์ paper wallet ข้อดีของ paper wallet คือการทนทานต่อการแฮ็กข้อมูลทางออนไลน์สูง และมักถือเป็นตัวเลือกสำหรับการใช้เป็น cold storage
ส่วน hardware wallet เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีความซับซ้อนในการจัดเก็บ crypto ที่เกี่ยวข้องกับระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจาก private keys ยังคงออฟไลน์โดยสมบูรณ์ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีระบบคุ้มกันต่อการแฮ็กจากระยะไกลทุกประเภท ยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักและใช้กันมากที่สุดคือ Trezor และ Ledger
2. ตรวจสอบการยืนยัน two-factor authentication ว่าเปิดอยู่หรือไม่
อย่านิ่งนอนใจกับความปลอดภัยเพิ่มเติมที่สำคัญ อย่างการลืมเปิด two-factor authentication หรือ 2FA ในการตั้งค่าความปลอดภัยของบัญชีกระเป๋าเงินของคุณ เนื่องจาก 2FA จะส่งคำขอรหัสผ่านเพิ่มเติมไปยังโทรศัพท์หรืออีเมลของคุณทุกครั้งที่คุณลงชื่อเข้าใช้กระเป๋าเงินของคุณ
เปิดใช้งาน 2FA มันจะช่วยป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงบัญชี crypto wallet ได้ทันที เนื่องจากแฮ็กเกอร์จะต้องเข้าถึงโทรศัพท์หรืออีเมลของผู้ใช้ด้วย
Google Authenticator เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชัน 2FA ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งให้บริการ two-step verification แก่ผู้ใช้บนโทรศัพท์ ทั้ง andriod และ IOS
3. อย่าแชร์ private keys
โปรดจงจำไว้ว่า บริษัท crypto ทั้งหลายที่มีชื่อเสียงจะไม่ขอ keys จากคุณแม้ว่าจะพยายามช่วยคุณแก้ไขปัญหาใด ๆ ก็ตาม ดังนั้น อย่าให้ private keys หรือ seed phrase แก่ใคร !
4. ตรวจสอบว่ากระเป๋าเงินของผู้รับถูกต้อง
เพราะความผิดพลาดเพียงตัวอักษรเดียวก็อาจทำให้ธุรกรรมของคุณถูกส่งไปยังกระเป๋าเงินอื่นได้ และเนื่องจากมันตรงกันข้ามกับบริการทางการเงินแบบเดิม ๆ ธุรกรรม crypto ส่วนใหญ่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะตรวจสอบที่อยู่ของผู้รับทุกครั้งก่อนทำธุรกรรม
5. อย่าตกเป็นเหยื่อ giveaway scams
ข้อเสนอทั้งหลายที่ฟังดูล่อตาล่อใจและให้กำไรสำหรับคุณ อย่าง“ส่ง Bitcoin มาให้เรา และรับ Bitcoin กลับคืนไปเป็นสองเท่า” จริงๆแล้วเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น โดยผู้โจมตีมักแอบอ้างเป็นคนดัง , นักการเมืองหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการ Crypto ที่มีแนวโน้มว่าจะสามารถมอบเงินดิจิทัลของผู้ใช้กลับไปได้เป็นสองเท่า!
6. การใช้ธุรกรรมขนาดเล็กและเว็บเทรดที่แตกต่างกัน
สิ่งที่คุณควรทำเมื่อต้องการทำธุรกรรมด้วยเงินจำนวนมากในสกุลเงินดิจิทัล ควรแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ธุรกรรม หลาย ๆ รายการเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บเทรดทำงานอย่างถูกต้อง
หากจะพูดกระแสการลงทุนในยุคนี้ ถือว่ามาแรงมากๆ และหากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น