หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น ได้กลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการการลงทุนมากขึ้น หลังจากที่เจ้าไวรัสโควิด สายพันธ์เดลต้าได้แพร่กระจายออกไปทั่วโลก ทำให้เกิดความต้องการวัคซีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแต่ละหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนก็จะมีความแตกต่างกัน เรามาดูถึงว่ามีในบริษัทใด และหุ้นตัวไหนที่โดดเด่นบ้าง
บริษัทจดทะเบียนในยุโรป
AstraZeneca หรือที่เราเรียกกว่า แอสต้า เป็นริษัทที่จดทะเบียนในยุโรป ในตลาดหลักทรัพย์ London ประเทศอังกฤษ โดยเป็นบริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 12 ของโลก ได้ใช้ชื่อย่อว่า “AZN LN”
โดย AZN เป็นวัคซีนประเภทใช้ไวรัสเป็นพาหะ ถือเป็นวัคซีนหลักที่ใช้ในกลุ่มประเทศยุโรปนอกเหนือจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม AZN ยังมีประสิทธิภาพไม่มากพอในการรับมือกับสายพันธ์เดลต้า
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง
Sinopharm Group จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Hong Kong ใช้ Ticker 1099 HK ซึ่งเป็นวัคซีนหลักที่ใช้ฉีดในประเทศจีน ผลิตโดยใช้เชื้อตาย (Inactivated Vaccine) ปัจจุบันมีการนำวัคซีนซิโนฟาร์มมาใช้งานไปแล้วกว่า 65 ล้านโดส ในประเทศจีน และอีกกว่า 41 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปากีสถาน และฮังการี
บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ
Novavax (NVAX) ที่ผลิตโดยโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein-based Vaccine) แล้วนำมาผสมกับสารกระตุ้นภูมิเพื่อให้ร่างกายทำการสร้าง Antibody ต่อสู้กับโปรตีนสไปค์ของไวรัสโควิด
AstraZeneca (AZN US) ที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ
Johnson&Johnson (JNJ) ซึ่งเป็นวัคซีนประเภทใช้ไวรัสเป็นพาหะ
โดยทั้งสองบริษัท AstraZeneca และ Johnson&Johnson ใช้เป็นเทคโนโลยีการใช้ไวรัส (Adenovirus) มาดัดแปลงพันธุกรรมให้มีโปรตีนโคโรนาไวรัส กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโควิด ขึ้นมา
Moderna (MRNA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ผลิตจากสารพันธุกรรมกับเชื้อไวรัสซึ่งจะนำพา mRNA เข้าเซลล์ เพื่อทำการควบคุมให้เซลล์ผลิตสารโปรตีนสไปค์ของเชื้อไวรัส โดยต้องการที่จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง Antibody เพื่อการต่อสู้และสร้างภูมิคุมกันกับไวรัสโควิด-19
หุ้นตัวไหนเด่น?
โดยหุ้นที่โดดเด่นที่สุดณตอนนี้จะเป็น Moderna ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า MRNA โดยในแง่ของราคาหุ้นจะมีการเติบโตมากที่สุด และรองลงมาจะเป็น Bioentech (BNTX)และ Novavax (NVAX) และนอกจากนี้ยังมี Pfizer ที่ใช้ชื่อย่อว่า PFE
อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มนี้จะเน้นผลิตวัคซีนต้านโควิดเป็นหลัก ซึ่งอาจจะใช้เงินลงทุนที่สูง และเป็นบริษัทขนาดเล็กทำให้มีอัตราการเติบโตที่สูง แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือจะยังไม่มีการจ่ายปันผล
แต่ก็ตรงกันข้ามกับ Pfizer และ Johnson&Johnson ที่เป็นบริษัทผลิตยาขนาดใหญ่ของโลก มีผลิตภัณฑ์นับ100ชนิดและเพิ่มวัคซีนต้านไวรัสโควิดเข้ามาทำให้สัดส่วนรายได้จากไวรัสโควิดเมื่อเทียบกับรายได้รวมจึงไม่สูงมากนัก ดังนั้นหากจะเลือกลงทุนก็ต้องต้องเข้าใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย
และกระแสการลงทุนในยุคนี้ถือว่ามาแรงมาก ๆ หากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น