ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น สังเกตได้จากสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ อีกทั้งบางอย่างยังสามารถทำงานได้เหนือคน อีกทั้งยังมีโอกาสเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ด้วย โดยสิ่งนี้ถูกเรียกกันว่า AI (Artificial Intelligence)
เคล็ดลับ! 9 วิธีใช้ ChatGPT วิเคราะห์หุ้น ให้แม่นยำ 100%
ล่าสุดมีเรื่องที่ทำให้เราได้ตื่นเต้นอีกครั้งกับการเปิดตัวของ “ChatGPT” ซึ่งเป็น Chatbot AI ที่ฉลาดมากที่สุดในตอนนี้ โดยมันกลายเป็นไวรัลตั้งแต่วันเปิดตัว ซึ่งดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์ ด้วยความสามารถที่คล้ายกับ Google แต่ใช้งานง่ายกว่าเพียงแค่คุณโยนคำสั่งเข้าไปในเว็บ เช่น การเขียนบทความ แต่งเพลง ทำโจทย์คณิตศาสตร์ เขียนวิทยานิพนธ์ หรือแม้แต่การเขียนโค้ด จนเกิดคำถามที่ว่า ChatGPT จะเข้ามาแย่งงานของมนุษย์หรือไม่ เพราะดูเหมือนมันแทบจะทำได้เกือบทุกสายอาชีพ
ChatGPT คือ อะไร?
ChatGPT คือ AI Chatbot หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้ โดยพัฒนามาจากบริษัท OpenAI ถูกปล่อยออกมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่ง ChatGPT สามารถตอบคำถามได้ทุกเรื่องในขอบเขตข้อมูลปี 2021 เท่านั้น วงการเทคโนโลยีมองว่า การเปิดตัว ChatGPT นั้นเทียบเท่ากับการเปิดตัว iPhone ของ Apple ในช่วงปี 2007 เลยทีเดียว
คาดการณ์ว่า กระแสของ ChatGPT จะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเหมือน Chatbot ทั่วไป เช่น Simsimi ที่เป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แตกต่างจาก ChatGPT ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างประโยชน์และอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ โดยมีผู้ใช้งานครบ 1 ล้านคน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 วัน หลังจากการเปิดตัว นอกจากนี้ ปัจจุบันความสามารถของมันยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด เนื่องจากในอนาคตมีแผนการที่จะป้อนข้อมูลเพิ่ม และมีเวอร์ชัน Premium ที่่สามารถทำอะไรได้หลากหลายมากกว่าเวอร์ชันให้ใช้งานฟรี
ข้อจำกัดของ ChatGPT
- ข้อมูลถูกรวบรวมถึงแค่ปี 2021
- ไม่สามารถตอบคำถามที่เจาะลึกได้
- ด้านการเขียนโค้ดยังทำได้แค่พื้นฐาน
- ข้อมูลที่ได้รับจาก ChatGPT ไม่มีอ้างอิง ทำให้อาจถูกบิดเบือนและไม่ถูกต้องทั้งหมด
- หากเป็นคำถามที่ใกล้เคียงกัน คุณจะได้คำตอบที่เหมือนกัน
10 อาชีพเตรียม “ตกงาน” เพราะ ChatGPT
1. Content Creator
หลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่า ChatGPT สามารถเขียนบทความออกมาได้เป็นเรื่อง ๆ ซึ่งแน่นอนว่า ในอนาคตคนที่ทำสายงานนี้ก็คงได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ ChatGPT ใช้เวลาในการเขียนบทความ 1 หน้าไม่ถึง 3 นาที ทำให้บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ ChatGPT ในการทำคอนเทนต์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ChatGPT ยังคงเขียนบทความได้แค่ข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น มันจะดีมากหากคุณใช้มันแล้วนำไปประยุกต์กับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น
2. Programmer
โดย AI ของ ChatGPT สามารถเขียนโค้ดได้ตามที่ต้องการ เพียงแค่คุณโยนคำสั่งเข้าไป แต่มีโปรแกรมเมอร์หลายกลุ่มออกมาบอกว่า “มันทำได้แค่โค้ดพื้นฐานเท่านั้น” และหากก็อปไปลงในโปรแกรมยังทำให้โค้ดที่รันออกมามั่วอีกด้วย ล่าสุดทาง Stack Overflow เว็บไซต์อันดับ 1 สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานคล้ายกับ Pantip ได้มีการประกาศแบนคำตอบที่มาจาก ChatGPT เนื่องจากไม่เชื่อมั่นถึงความถูกต้องในการเขียนโค้ดของมัน ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อผู้ที่นำไปใช้งานต่อ อย่างไรก็ตาม เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า ในอนาคตความสามารถในการเขียนโค้ดของ ChatGPT จะถูกพัฒนาขึ้นมากเท่าไร
3. Copy Writer
Copy Writer คือ ผู้รับผิดชอบในการเขียนคำโฆษณาทุกประเภท สำหรับคนในวงการจะรู้ดีว่ากว่าเราจะคิดคำโฆษณาขึ้นมา 1 ตัวนั้น ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่ ChatGPT สามารถคิดคำเหล่านั้นได้ภายในไม่กี่นาที เพียงแค่ระบุคำสั่งและเงื่อนไขให้ชัดเจน ซึ่งผู้ประกอบการมองว่า มันประหยัดเวลามากในการทำงาน
4. Influencer
Influencer คือ กลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แทบจะใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมท แต่ขณะเดียวกันก็มีอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็น AI เช่น โรซี่ ไอรีน และกะทิ ซึ่ง AI เหล่านี้ โด่งดังไม่ต่างจากคนจริง ๆ อีกทั้งยังยังไม่มีข้อจำกัดในด้านร่างกายอีกด้วย
5. ครู/อาจารย์
อาจจะเป็นเรื่องค่อนข้างแปลกที่สายอาชีพนี้ติด 1 ใน 10 อาชีพที่อาจตกงาน แต่ในอนาคตมีโอกาสที่ ChatGPT สามารถวางแผนการสอนและกำหนดเนื้อหาต่าง ๆ ให้กับนักเรียนได้ แต่ถ้าเป็นการอบรมทางจริยธรรม แน่นอนว่า ChatGPT คงไม่ตอบโจทย์สักเท่าไร
6. ล่ามแปลภาษา
ChatGPT สามารถแปลคำและประโยคได้ภายในไม่กี่วินาที ในทางกลับกัน ChatGPT ยังไม่สามารถทำความเข้าใจของบริบท และศัพท์เฉพาะได้ คงต้องรอดูต่อไปว่า ในอนาคตฟังก์ชันที่เพิ่มมาจะเอื้ออำนวยในส่วนนี้มากเท่าใด
7. นักพิสูจน์อักษร
ปัจจุบันมีโปรแกรมหลายอย่างที่เข้ามาช่วยในงานส่วนนี้ เช่น Microsoft word, Grammarly และ Hemingway App ซึ่งทำให้นักพิสูจน์อักษรทำงานได้ง่ายขึ้นมาก แต่สำหรับ ChatGPT แล้ว การที่จะส่งข้อมูลอะไรออกมา มันได้พิสูจน์อักษรไปในตัวแล้ว ซึ่งในอนาคตเราอาจไม่จำเป็นต้องมีนักพิสูจน์อักษรที่เป็นคนอีกต่อไป
8. IT Support
ปัจจุบันเริ่มมีบริษัทใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีที่เริ่มมีการดึง AI เข้ามาช่วยในงานส่วนนี้ เช่น แนะนำวิธีใช้งาน หรือแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ทำให้ในอนาคตอัตราการเลิกจ้างของอาชีพ IT Support เพิ่มมากขึ้น หรือเราอาจเลิกใช้คนตอบกลับลูกค้าไปเลยก็ได้
9. HR
HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล จำเป็นต้องใช้ทักษะในด้านการจัดการพนักานใหม่, งานเอกสาร และจัดการเกี่ยวกับค่าตอบแทนของพนักานในบริษัทต่าง ๆ ซึ่ง ChatGPT สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน เช่น โปรแกรม Ultipro และ Workday ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในทางกลับกัน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็ยังจำเป็นต้องมีมนุษสัมพันธ์กับคนในองค์กร ดังนั้น ChatGPT อาจยังไม่ตอบโจทย์มากขนาดนั้น
10. Graphic Design
อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่า ChatGPT สามารถวาดรูปได้ และปัจจุบันก็มี AI ที่สร้างผลงานศิลปะได้รวดเร็วกว่าคน แต่ข้อด้อยของเทคโนโลยีเหล่านี้ คือ ภาพยังไม่ออกมาสมจริงมากนัก ดังนั้น ในอนาคตอาจมีการพัฒนา AI เกี่ยวกับการสร้างงานศิลปะให้ตรงตามคำสั่งมากขึ้น
สรุป
ทั้งหมดนี้คือ 10 อาชีพเตรียม “ตกงาน” เพราะ ChatGPT มากที่สุด เราจะเห็นว่ามันค่อนข้างครอบคลุมหลายสายอาชีพ ซึ่งคุณคงต้องรีบพัฒนาตนเอง เพื่อรักษาเก้าอี้ของคุณให้แน่น อย่าปล่อยให้เทคโนโลยีเข้ามาแทรกซึมในชีวิตของเรามากขนาดนั้น เพราะเทคโนโลยีก็เกิดจากการที่มนุษย์สร้างมันขึ้นมา ดังนั้น มันจะมาฉลาดกว่าคนได้อย่างไร!