นักลงทุนที่กำลังมองหาการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงและสามารถกระจายประเภทการลงทุนได้อย่างหลากหลาย กองทุนรวมก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณครับ เพราะคุณสมบัติเด่นของกองทุนรวม คือ มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล, ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และใช้เงินลงทุนต่ำ อีกทั้ง คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ก็สามารถลงทุนได้อีกด้วย!
วันนี้ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี สูงสุด 17.56% ส่งท้ายปี 2566 จะมีอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบกันครับ!
กองทุนรวม หมายถึงอะไร?
กองทุนรวม (Mutual Fund) หมายถึง การรวบรวมเงินจากนักลงทุน เพื่อนำมาลงทุนตามนโยบายที่กองทุนรวมนั้น ๆ กำหนดไว้ โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเป็นผู้ช่วยในการบริหารเงินทุน สำหรับจุดเด่นของกองทุนรวมนั้น คือ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนสูงก็สามารถลงทุนได้ ซึ่งกองทุนมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตราสาร, หุ้นกู้, การฝากเงินกับธนาคาร และการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นต้น
กองทุน RMF ตัวไหนดี 2566 ใช้ลดหย่อนภาษีได้จริงไหม?
กองทุน SPDR คือ อะไร? สายเทรดทองห้ามพลาด!
กองทุนรวมมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
กองทุนรวมสามารถแบ่งลักษณะในการจัดจำหน่ายและไถ่ถอนออกเป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้
- กองทุนเปิด (Opened-End Fund) คือ กองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการหรือไม่ก็ได้ ซึ่งกองทุนลักษณะนี้ สามารถซื้อหรือขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมและต่อเนื่องได้ แม้ว่าจะมีการเสนอขายกองทุนในครั้งแรกไปแล้ว
- กองทุนปิด (Closed-End Fund) คือ กองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการไว้อย่างชัดเจน โดยมีการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือ ช่วงเริ่มต้นโครงการ ซึ่งหลังจากนั้นจะไม่มีการเสนอออกขายหน่วยลงทุนใดเพิ่มเติม
การลงทุนในกองทุนรวม มีอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้ว การลงทุนในกองทุนรวมมีให้เลือกหลากหลายประเภท โดยสามารถแบ่งออกได้ 8 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- กองทุนรวมตราสารหนี้
- กองทุนรวมผสม
- กองทุนรวมตราสารทุน
- กองทุนรวมตลาดการเงิน
- กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ
- กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
- กองทุนรวมเพื่อการออม
- กองทุนรวมเพื่อเลี้ยงชีพ
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมมีอะไรบ้าง?
- ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้
- รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
- มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลการลงทุน
- เพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามการลงทุน
เช็ก! ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม มีอะไรบ้าง? นักลงทุนควรรู้
สำหรับค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมที่นักลงทุนควรรู้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุน
ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุน คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อนักลงทุนทำการซื้อหรือขายกองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีนโยบายในการเสียค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน
2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ เงินปันผลจากกองทุนรวมที่จะต้องจ่ายให้กับภาครัฐ ซึ่งนักลงทุนต้องจ่าย 10% ของเงินปันผลที่ได้รับ
3. ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายสินทรัพย์ในกองทุน
ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายสินทรัพย์ในกองทุน คือ ค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายให้กับกองทุน
4. ค่าธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนกองทุน
ค่าธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนกองทุน คือ ค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายเมื่อทำการย้ายกองทุน
การเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ ควรพิจารณาอย่างไร?
ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 3 ขั้นตอนของการเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณสามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณให้มากที่สุด โดยทั้ง 3 ขั้นตอน มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. ตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่า ลงทุนไปเพื่ออะไร?
ขั้นตอนแรก คือ คุณควรตั้งเป้าหมายในการลงทุนของตัวเองก่อน โดยคุณควรศึกษาว่า คุณต้องการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอะไร และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งดูได้จาก Sharpe Ratio รวมทั้ง คุณจำเป็นต้องกำหนดระยะเวลาในการลงทุนด้วย เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด
2. พิจารณากองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet
เมื่อตั้งเป้าหมายของตนเองได้แล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การพิจารณากองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet หรือหนังสือชี้ชวน เพื่อศึกษาขนาดของกองทุน, การจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำ, ผลประกอบการย้อนหลัง, ผลตอบแทนย้อนหลัง และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของกองทุนรวม เป็นต้น โดย Fund Fact Sheet สามารถศึกษาได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่คุณให้ความสนใจนั่นเอง
3. ติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้าย คือ การติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยควรติดตามผลอย่างน้อยในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า กองทุนที่เราเลือกนั้น เป็นกองทุนที่ยังคงให้ผลตอบแทนดีอยู่
10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี มีอะไรบ้าง?
ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่องที่ดีที่สุด 5 ปี สูงสุด 17.56% ซึ่งทั้ง 10 กองทุนรวมมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- B-INNOTECH ของบลจ. BBLAM
- K-USXNDQ-A(D) ของบลจ. KASSET
- ASP-NGF ของบลจ. ASP
- SCBPGF ของบลจ. SCBAM
- KTMSEQ ของบลจ. KTAM
- ASP-SME-A ของบลจ. ASP
- ASP-SMELTF-T ของบลจ. ASP
- MIDSMALLLTF ของบลจ. MFC
- TLMSEQ-A ของบลจ. TALISAM
- TISCOFLEXP ของบลจ. TISCOAM
*หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ Finnomena ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน
กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี : B-INNOTECH
นโยบายกองทุน
ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds – Global Technology Fund (กองทุนหลัก) คือ กองทุนรวมต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากความก้าวหน้าและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยกองทุนรวมนี้ มีหน่วยลงทุนชนิด Class Y-ACC-USD ซึ่งเป็นกองทุนเดียว
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 8,620,245,363.23 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 10 มีนาคม 2560
- บลจ. = BBLAM
- หมวดกองทุน = Technology Equity
- ค่าความเสี่ยง = 7
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 17.56%
กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว : K-USXNDQ-A(D)
นโยบายกองทุน
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco QQQ Trust, Series 1 (กองทุนหลัก) ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมีนโยบายลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นสหรัฐ NASDAQ-100
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 4,889,342,451.39 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 12 เมษายน 2556
- บลจ. = KASSET
- หมวดกองทุน = US Equity
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0.15%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 0%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 17.35%
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท : ASP-NGF
นโยบายกองทุน
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nippon Growth (UCITS) Fund (กองทุนหลัก) โดยเป็นกองทุนที่จดทะเบียนหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้นโยบายการลงทุนเน้นการลงทุนในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าหรือโตเกียว รวมทั้ง ยังเน้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย แต่จะต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 791,371,325.15 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 23 มิถุนายน 2549
- บลจ. = ASP
- หมวดกองทุน = Japan Equity
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1.25%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 14.13%
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ : SCBPGF
นโยบายกองทุน
เน้นลงทุนในหน่วยการลงทุนรวมของต่างประเทศ คือ DWS Invest CROCI Sectors Plus ใน Share Class FCH (P) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Consumer Discretionary, Health Care, Information Technology, Consumer Staples, Materials, Industrials, Telecom Services, Utilities และ Energy (Equity Fund) รวมทั้ง ยังพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) อีกด้วย
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 785,333,534.43 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 4 กันยายน 2549
- บลจ. = SCBAM
- หมวดกองทุน = Global Equity
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1.07%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 13.15%
กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap : KTMSEQ
นโยบายกองทุน
เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและหรือขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ได้อีกด้วย
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 340,799,846.98 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 30 เมษายน 2558
- บลจ. = KTAM
- หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 12.17%
กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ : ASP-SME-A
นโยบายกองทุน
เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ได้อีกด้วย
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 1,234,762,393.91 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 2 สิงหาคม 2560
- บลจ. = ASP
- หมวดกองทุน = Equity General
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1.25%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 11.80%
กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ หุ้นระยะยาว : ASP-SMELTF-T
นโยบายกองทุน
ลงทุนในตราสารทุนและหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเน้นลงทุนในบริษัทขนาดกลาง-ขนาดเล็ก และในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 485,159,565.99 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 23 พฤศจิกายน 2560
- บลจ. = ASP
- หมวดกองทุน = Equity General
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
- ค่าธรรมเนียมขาย = 0%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 5,000 บาท และครั้งถัดไป 5,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 11.14%
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป หุ้นระยะยาว : MIDSMALLLTF
นโยบายกองทุน
เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตของธุรกิจตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงระดับสูง โดยมีอัตราส่วนการลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 98,793,056.47 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 24 พฤศจิกายน 2560
- บลจ. = MFC
- หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 0%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.87%
กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP หุ้นทุน : TLMSEQ-A
นโยบายกองทุน
ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี อีกทั้ง มีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจที่ดีอีกด้วย
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 209,364,928.09 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 20 ธันวาคม 2559
- บลจ. = TALISAM
- หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.76%
กองทุนเปิด ทิสโก้ เฟล็กซิเบิ้ล พลัส : TISCOFLEXP
นโยบายกองทุน
เน้นการกระจายเงินลงทุนในตราสารทุน, ตราสารหนี้ และเงินฝาก รวมทั้งหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศเอาไว้
รายละเอียดกองทุน
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 242,042,713.32 บาท
- วันที่จดทะเบียน = 30 พฤษภาคม 2539
- บลจ. = TISCOAM
- หมวดกองทุน = Aggressive Allocation
- ค่าความเสี่ยง = 6
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
- ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
- การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
- ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.48%
คุณกำลังมองหาบทความเกี่ยวกับการลงทุนอื่น อยู่หรือเปล่า?
Market Cap คืออะไร? ดูได้จากตรงไหน และทำไมนักลงทุนจึงควรรู้ไว้!
ซื้อหุ้นตัวไหนดี ? เปิด 3 หุ้นน่าลงทุนระยะยาว ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตเกือบ 90%
Yield คืออะไร? หนึ่งในตัวช่วยหาผลตอบแทนจากการลงทุน มือใหม่ควรรู้!
สุดยอด! 10 หุ้นปันผลสูง 2566 หุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน จ่ายปันผลมานานกว่า 10 ปี
5 หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนพฤศจิกายน 2566 จ่ายดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4.95% ต่อปี ห้ามพลาด!
6 หุ้นธุรกิจ Healthcare ลงทุนอย่างไรดี? เมื่อโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ ปี 2566
การลงทุนในกองทุนรวมดีอย่างไร?
- ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้
- รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
- มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลการลงทุน
- เพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามการลงทุน
การลงทุนกองทุนรวม ต้องรู้อะไรบ้าง?
การลงทุนในกองทุนรวม คุณต้องรู้ถึงจุดประสงค์ในการลงทุนของคุณก่อน หลังจากนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวมให้ดี ประกอบกับเช็กค่าธรรมเนียม, ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้, ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 – 10 ปี และติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดนั่นเอง
นักลงทุนควรซื้อกองทุนไหนดี ปี 2566
- B-INNOTECH ของบลจ. BBLAM
- K-USXNDQ-A(D) ของบลจ. KASSET
- ASP-NGF ของบลจ. ASP
- SCBPGF ของบลจ. SCBAM
- KTMSEQ ของบลจ. KTAM
- ASP-SME-A ของบลจ. ASP
- ASP-SMELTF-T ของบลจ. ASP
- MIDSMALLLTF ของบลจ. MFC
- TLMSEQ-A ของบลจ. TALISAM
- TISCOFLEXP ของบลจ. TISCOAM
สรุป
จากที่กล่าวไปข้างต้น ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจมาให้คุณได้พิจารณาการเลือกสรรกองทุนรวมที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะกองทุนรวมสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดี อย่างไรก็ตาม การลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนให้ละเอียดและรอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้น คุณอาจเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News