Serum เป็นโปรโตคอล Decentralized Exchange (DEX) ที่อยู่บน Solana และได้รับการสนับสนุนจาก Alameda Research และ FTX ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งและเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Solana ได้เผยว่า มีการถือครอง Serum (SRM) มูลค่ากว่า 134.54 ล้านดอลลาร์บนกระดานเทรด FTX และการเปิดเผยนี้ส่งผลให้ชุมชน Serum แยกโปรเจกต์ออกไปเพื่อป้องกันตัวเองจากการที่ FTX ถูกแฮ็ก ส่งผลให้ราคาของ Serum เพิ่มขึ้นกว่า 80%
โดยสิ่งนี้ทำให้แอปและนักพัฒนา DeFi หลายคนเลือกตัดความสัมพันธ์กับ Serum หลังมีข่าวลือว่า การแฮ็ก FTX เกิดจากคนภายในบริษัทและสาเหุตดังกล่าวก็ส่งผลให้ราคาของ Serum ลดลงอีกครั้ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Binance ได้ประกาศหลังเหตุการณ์ดังกล่าวว่า จะทำการเพิกถอนคู่ซื้อขาย Serum (SRM) 3 คู่ โดยด้าน Binance ให้เหตุผลว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต และในการประกาศครั้งนี้ระบุว่า Binance จะยุติการซื้อขายสำหรับคู่ SRM/ BNB, SRM/BTC และ SRM/ USDT ในวันที่ 28 พฤศจิกายน
แม้ Serum จะมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างสูงในกระดานเทรดอย่าง Binance, Kraken และ Kucoin แต่ด้วยความเกี่ยวข้องกับ FTX ก็เป็นสาเหตุที่ Serum ถูกตรึงราคาไว้อย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ (28 พฤศจิกายน) SRM มีราคาเหลือเพียง 0.23 ดอลลาร์ ลดลงกว่า 4.5% ใน 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งหากมองภาพรวมแล้ว SRM สูญเสียมูลค่าไปกว่า 98% จากระดับสูงสุดตลอดกาล (อิงจาก CoinMarketCap)
ในขณะที่ผลกระทบจากเหตุการณ์ FTX ยังคงแพร่กระจายต่อไป เทรดเดอร์หลายคนพบว่า Solana เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ได้รับความกดดัน เพราะมีโปรโตคอลที่เชื่อมโยงกับ FTX ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ หลายโครงการใน Solana ได้ใช้สินทรัพย์ที่เรียกว่า “Sollet Assets” เพื่อทดแทน Bitcoin, Ether และเหรียญน ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อกันว่า FTX เป็นผู้ออกสินทรัพย์เหล่านี้ โดยมี Alameda Research ให้การสนับสนุน ซึ่งการล้มละลายของ FTX ทำให้ Solana มีโปรโตคอลจำนวนหนึ่งที่มีหนี้สูญ (Bad debt) นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผลของเหตุการณ์ล้มละลายของ FTX ทำให้เว็บเทรดต่าง ๆ รวมถึง Binance ประกาศหยุดการฝาก USDC และ USDT ชั่วคราวบน Solana และจะกลับมาให้บริการเหรียญบางส่วนในภายหลัง จะเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อราคาของ SOL ทำให้ราคาลดลงกว่า 94% จากระดับสูงสุดตลอดกาล ยังคงต้องติดตามกันต่อไป
Source: zycrypto