Stochastic Oscillator อีกหนึ่งเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นิยมใช้กันในการเทรด Forex ซึ่งมีจุดเด่นที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนและยังช่วยบอกจุดเข้าซื้อ-ขายให้แก่เทรดเดอร์ได้อีกด้วย ในวันนี้ทีมงาน Gotradehere จะพาทุกท่านไปรู้จักกับอินดิเคเตอร์ชนิดนี้ พร้อมเทคนิคการตั้งค่าและการใช้งานจริงซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์ทุกท่านอย่างแน่นอน ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
Stochastic Oscillator คืออะไร?
Stochastic Oscillator (STO) เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Momentum ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สายอ่านกราฟสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์จากการแกว่งตัวของราคาในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับราคาสูงสุดและต่ำสุดที่กำหนดไว้ โดย Stochastic Oscillator จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ RSI Indicator เพียงแต่ STO จะประกอบด้วยเส้น 2 เส้นที่มีค่าตั้งแต่ 0-100 นอกจากนี้ Stochastic Oscillator สามารถบอกถึงสภาพของตลาดเมื่อเกิดสภาวะ Overbought & Oversold ได้เช่นกันครับ
📝 ทำความรู้จักกับ Overbought & Oversold
Overbought หมายถึง สภาวะของตลาดที่มีการซื้อมากจนเกินไป ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่แรงซื้อจะอ่อนตัวลงและแทนที่ด้วยแรงขายที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้แนวโน้มของราคาสินทรัพย์เกิดชะลอการปรับตัวขึ้นแล้วกลับตัวเป็นขาลงได้ครับ
Oversold หมายถึง สภาวะของตลาดที่มีการขายมากจนเกินไป ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลงกว่าปกติ ทำให้มีแนวโน้มที่แรงขายจะอ่อนตัวลงและถูกแทนที่ด้วยแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาสินทรัพย์มีการชะลอการปรับตัวลงแล้วกลับตัวเป็นขาขึ้นแทนครับ
Stochastic Oscillator บอกอะไรบ้าง?
Stochastic Oscillator สามารถให้ข้อมูลกับเทรดเดอร์ได้หลัก ๆ ดังนี้
- Overbought & Oversold
- Divergence
- จุดกลับตัวจากการตัดกันของ Indicator (Cross Reversal)
สูตรคำนวณของ Stochastic Oscillator
Stochastic Oscillator จะมีส่วนประกอบทั้งหมด 2 เส้น ได้แก่ เส้น %K และ %D โดยจะมีสูตรคำนวณ ดังนี้
%K | (Current Close – Lowest Low) / (Highest High – Lowest Low) X 100 |
%D | 3-day SMA of %K |
เมื่อแทนค่าด้วย
- Current Close แทนด้วย ราคาปิดล่าสุด
- Lowest Low แทนด้วย ราคาต่ำสุดตามช่วงเวลาที่กำหนด
- Highest High แทนด้วย ราคาสูงสุดตามช่วงเวลาที่กำหนด
วิธีการอ่านค่า Stochastic Oscillator
- %K > 80 หมายถึง ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะ Overbought ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสที่ราคาสินทรัพย์จะปรับตัวเป็นขาลง
- %K < 20 หมายถึง ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มลดลงจากสภาวะ Oversold ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสที่ราคาสินทรัพย์จะปรับตัวเป็นขาขึ้น
จุดเด่นและข้อจำกัดในการใช้ Stochastic Oscillator
จุดเด่นของ Stochastic Oscillator
- ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
- บอกจุดเข้าซื้อและจุดขายได้ ผ่านจุดตัด %K และ %D
- บอกแนวโน้มและการกลับตัวของราคาผ่าน Overbought / Oversold และ Divergence
- สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือตัวอื่นได้ง่าย
ข้อจำกัดของ Stochastic Oscillator
- ให้สัญญาณช้า
- ข้อมูลที่นำมาใช้สำหรับสร้างอินดิเคเตอร์มีน้อย ทำให้ต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติม
- เกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย
วิธีการตั้งค่า Stochastic Oscillator
โดยปกติแล้วการตั้งค่าของ Stochastic Oscillator ใน TradingView จะให้ค่าเดิมมาอยู่ที่ 14, 1, 3 ซึ่งจะทำให้เส้น %K ดูค่อนข้างยาก แต่ได้มีเทรดเดอร์คนอื่น ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยน และนำไปเผยแพร่ต่อ จนได้การตั้งค่าที่นิยมในการเทรดแต่ละรูปแบบมา ดังนี้ครับ
การตั้งค่า Stochastic Oscillator สำหรับ Scalping
- %K Length = 13
- %K Smoothing = 8
- %D Smoothing = 8
การตั้งค่า Stochastic Oscillator สำหรับ Day Trade
- %K Length = 15
- %K Smoothing = 3
- %D Smoothing = 3
การตั้งค่า Stochastic Oscillator สำหรับ Swing Trade
- %K Length = 6
- %K Smoothing = 3
- %D Smoothing = 3
⛔ ทั้งนี้เทรดเดอร์ควรเลือกรูปแบบการตั้งค่าของอินดิเคเตอร์ให้ตรงกับสไตล์การเทรดของตนเอง เพื่อดึงประสิทธิภาพของอินดิเคเตอร์ให้ออกมาได้มากที่สุดและเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดด้วยเช่นกันครับ
การใช้ Stochastic Oscillator ในการเทรด Forex
ในการเทรด Forex ด้วยอินดิเคเตอร์ Stochastic เทรดเดอร์สามารถดูจุดเข้าซื้อ-จุดขาย, Divergence หรือจุดกลับตัวของราคาคู่สกุลเงินในตลาด Forex ผ่านอินดิเคเตอร์ชนิดนี้ได้ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มและหาจุดหรือโอกาสในการทำกำไรที่ดีที่สุดด้วยวิธีดังนี้ครับ
📌 Stochastic Oscillator หาจุดเปิดออเดอร์ Buy-Sell ด้วยจุดตัด %K และ %D
เทรดเดอร์สามารถหาจุดเข้าซื้อหรือจุดขายเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้นได้ผ่านการดูสัญญาณของการตัดกันระหว่างค่า %K และ %D ในระดับที่มีสภาวะ Overbought และ Oversold โดยมีหลักการสังเกตสัญญาณดังนี้ครับ
- เมื่อ %K ตัดกับ %D ในสภาวะ Oversold หมายถึง ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ฝั่ง Buy บริเวณจุดตัดเพื่อรอเก็งกำไรจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
- เมื่อ %K ตัดกับ %D ในสภาวะ Overbought หมายถึง ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง เทรดเดอร์ควรพิจารณาเปิดออเดอร์ฝั่ง Sell เพื่อรอเก็งกำไรจากราคาที่มีแนวโน้มลดลง
จากกราฟเทรดเดอร์จะเห็นจุดตัด %K และ %D บริเวณที่เกิดสภาวะ Oversold หมายความว่า มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเกิด Price action รูปแบบ Three Outside Up บริเวณใกล้จุดตัดซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีโอกาสสูงที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น เทรดเดอร์อาจจะพิจารณาเปิดออเดอร์ Buy เพื่อรอเก็งกำไรจากแนวโน้มราคาที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นครับ
📌 Stochastic Oscillator บอกแนวโน้มทิศทางราคา
Stochastic Oscillator สามารถบอกแนวโน้มทิศทางราคาโดยอาศัยการสังเกต %K และ %D โดยมีหลักการสังเกตดังนี้
- กรณีที่ %K ตัดในทิศทางขึ้นกับ %D หมายความว่า ราคาล่าสุดนั้นมีค่ามากกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ Buy ครับ
- กรณีที่ %K ตัดในทิศทางลงกับ %D หมายความว่า ราคาล่าสุดนั้นมีค่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ Sell ครับ
นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังสามารถสังเกตทิศทางผ่านสภาวะของตลาดที่ Stochastic Oscillator ได้แสดงออกมา เช่น เมื่อตลาดมีสภาวะ Overbought แรงซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะถูกแทนที่ด้วยแรงขายทำให้ราคาเกิดการชะลอตัวลงและกลับตัวลงแทนซึ่งเทรดเดอร์สามารถทำการเปิดออเดอร์ Sell เพื่อเก็งกำไรในตลาดขาลงได้ครับ
📌 Stochastic Oscillator บอกจุดกลับตัว
Stochastic Oscillator สามารถบอกจุดกลับตัวของราคาผ่านการเกิดสัญญาณ Divergence โดยการสังเกตค่า %K โดยหลักการดังนี้ครับ
- หากค่า %K ปรับค่าลดลง ในขณะที่ราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่ได้ปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกับค่า Stochastic Oscillator ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดการกลับตัวของราคาเป็นขาลง เรียกสัญญาณนี้ว่า Bearish Divergence
- หากค่า %K ปรับค่าสูงขึ้น ในขณะที่ราคาเริ่มชะลอตัวหรือปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกับค่า Stochastic Oscillator ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดการกลับตัวของราคาเป็นขาขึ้น เรียกสัญญาณนี้ว่า Bullish Divergence
ซึ่งสัญญาณ Bullish Divergence และ Bearish Divergence สามารถช่วยให้เทรดเดอร์รู้ทิศทางการกลับตัวของราคาและสามารถเปิดออเดอร์ Buy และ Sell เพื่อเก็งกำไรได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
สรุปการเข้าเทรดด้วย Stochastic Oscillator แบบพื้นฐานได้ ดังนี้
สัญญาณการ Buy
- กราฟราคาปรับตัวขึ้นไปยังบริเวณแนวต้าน
- Stochastic ปรับตัวขึ้นไปยังบริเวณ Overbought
- เส้น %K ตัดลงไปอยู่ใต้เส้น %D
- ปิดทำกำไรเมื่อ Stochastic เกิดการตัดกันอีกครั้ง
สัญญาณการ Sell
- กราฟราคาปรับตัวลงไปยังบริเวณแนวรับ
- Stochastic ปรับตัวขึ้นไปยังบริเวณ Oversold
- เส้น %K ตัดขึ้นไปอยู่เหนือเส้น %D
- ปิดทำกำไรเมื่อ Stochastic เกิดการตัดกันอีกครั้ง
⛔️ ข้อควรระวังในการใช้ Stochastic Oscillator ⛔️
ข้อควรระวังในการใช้ดูจุดตัดระหว่าง %K และ %D
ในการเทรดด้วย Stochastic จะมีพื้นฐานในการเข้าเทรดด้วยการดูจุดตัดกันระหว่างเส้น %K และ %D ที่จุด OB/OS ประกอบกับแนวรับ-แนวต้าน ในหลาย ๆ สถานการณ์ที่กราฟเกิดสัญญาณการเข้าเทรดดังกล่าว แต่ราคาอาจจะไม่ได้เกิดการกลับตัวอย่างที่ส่งสัญญาณมาให้ก็เป็นได้
ข้อควรระวังในการใช้ดูสัญญาณ Divergence
หลายครั้งที่กราฟได้เกิดสัญญาณ Divergence มาให้กับเทรดเดอร์ที่บริเวณ OB/OS ซึ่งในบางครั้งหรือหลาย ๆ ครั้งอาจจะเป็นเพียง “สัญญาณหลอก” เท่านั้น ดังนั้นการดูสัญญาณ Divergence จำเป็นที่จะต้องมีการนำอินดิเคเตอร์หรือเทคนิคอื่น ๆ เข้ามาช่วยยืนยันเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ป้องกันความเสี่ยงในการเจอสัญญาณหลอก
คำถามที่พบบ่อย Stochastic Oscillator
Stochastic Oscillator ดูยังไง ?
เทรดเดอร์สามารถอ่านค่าตัวเลข Stochastic Oscillator ผ่านเส้น %K ตั้งแต่ 0-100 โดยที่ค่า %K มากกว่า 80 หมายถึง สภาวะตลาดมีการซื้อมากเกินไปซึ่งมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงในอนาคต และเมื่อค่า %K น้อยกว่า 20 หมายถึง สภาวะตลาดมีการขายมากเกินไปซึ่งมีแนวโน้มที่ราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคตครับ
RSI ต่างจาก Stochastic อย่างไร
RSI และ Stochastic เป็นอินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมเหมือนกันและสามารถแสดงสภาวะ Overbought และ Oversold ได้เหมือนกัน แต่มีจุดแตกต่างกันที่การอ่านค่าตัวเลขที่ไม่เหมือนกันครับ
Stochastic RSI คืออะไร
เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ผสมผสานระหว่างอินดิเคเตอร์ 2 ชนิด คือ Stochastic Oscillator และ Relative Strength Index (RSI) โดยมีค่าตั้งแต่ 0-1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ของอินดิเคเตอร์ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
🔎 บทความที่เกี่ยวข้องกับ Stochastic Oscillator
14 Chart Pattern กลับตัว มีกี่แบบ? พร้อมวิธีเทรด Forex
RSI คือ อะไร? RSI Indicator สุดคลาสสิค “เก่าแต่ยังเก๋าอยู่”
Moving Average คือ อะไร? สุดยอด Indicator พื้นฐานที่ใช้ง่ายที่สุด ใครก็เทรดได้
MACD คือ อะไร? Indicator บอกแนวโน้มราคาได้แม่นยำกว่า 90% พร้อมเคล็ดลับการทำกำไร
สรุป Stochastic Oscillator
Stochastic Oscillator (STO) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคา เพื่อหาจุดกลับตัวของราคาและใช้ยืนยันแนวโน้มของราคาได้ โดย Stochastic สามารถที่จะให้ข้อมูลได้ทั้ง Overbought/Oversold, Divergence แต่เนื่องจากว่า Stochastic มีความไวต่อราคาอย่างมาก หลาย ๆ ครั้งที่อินดิเคเตอร์ Stochastic จะทำให้เกิดสัญญาณหลอกขึ้นได้ ดังนั้นเทรดเดอร์ควรที่จะใช้เครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เข้ามาช่วยในการเทรด เพื่อลดความเสี่ยงในการโดนสัญญาณหลอกและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News