ในช่วงที่ตลาดการลงทุนเกิดความผันผวน เป็นเหตุให้สินทรัพย์หลาย ๆ ประเภท มีผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก แต่หุ้นไทยกลับเป็นสินทรัพย์ที่ยังคงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน เพราะผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้นไทยกลายเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี อีกทั้งยังจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
ในวันนี้ทีมงาน Gotradehere จะพาทุกคนไปเช็ก 10 หุ้นไทยมาแรง พื้นฐานดีปี 2023 ซื้อตัวไหนดี? เพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่นักลงทุนที่กำลังลังเลว่า จะลงทุนกับหุ้นตัวไหนดี บทความนี้มีคำตอบให้คุณครับ
หุ้น คืออะไร?
หุ้น (Stock) คือ ตราสารที่กิจการหรือบริษัทต่าง ๆ ออกให้แก่ผู้ถือ โดยมีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนไปใช้ในกิจการ ซึ่งผู้ถือหุ้นจะมีสถานะเป็นเจ้าของกิจการ โดยจะมีส่วนได้ส่วนเสียในสินทรัพย์และรายได้ของกิจการนั้น ๆ
ลงทุนในตลาดหุ้นแล้วได้อะไร?
แม้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมี 3 เหตุผล ดังนี้
1. ผลตอบแทนที่น่าสนใจ
การลงทุนในตลาดหุ้นมักได้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล (Dividend) และกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain) ซึ่งเงินปันผลนี้ ถือเป็นผลตอบแทนที่สำคัญเป็นอย่างมากในการลงทุน เพราะหากเราเลือกบริษัทหรือกิจการที่มีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีในอนาคต เราก็จะสามารถได้เงินปันผลอย่างต่อเนื่องครับ
อย่างไรก็ตาม การเลือกหุ้นที่ได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาผลประกอบการของกิจการนั้น ๆ ให้ดี เพื่อที่จะสามารถลงทุนได้อย่างประสบความสำเร็จ
2. การเป็นเจ้าของกิจการร่วม
การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น คุณจะได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ โดยมีสิทธิถือครองตามสัดส่วนในการลงทุน ซึ่งผู้ที่ลงทุนจะสามารถเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้ถือหุ้นได้
3. การรักษาสภาพคล่อง
การลงทุนในตลาดหุ้นจะทำให้นักลงทุนสามารถรักษาสภาพคล่องได้ เมื่อต้องการเปลี่ยนเป็นเงินสด เพราะตลาดหุ้นสามารถมีการซื้อขายเปลี่ยนมือได้อย่างสะดวกและคล่องตัว โดยหุ้นของแต่ละกิจการจะมีสภาพคล่องที่แตกต่างกัน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเครดิตของกิจการนั้น ๆ
หุ้นมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
หุ้นสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่
หุ้นสามัญ (Common Stock)
หุ้นสามัญ (Common Stock) เป็นหุ้นที่บลจ. หรือบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งผู้ถือครองจะมีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นได้ โดยสามารถออกความคิดเห็น, ตัดสินใจ และวางแผนนโยบายต่าง ๆ ของบริษัท อีกทั้งยังมีสิทธิในการจองหุ้นใหม่ได้ก่อนใคร เมื่อบริษัทต้องการเงินหมุนเวียนในกิจการนั้น ๆ
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock)
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) เป็นหุ้นที่บลจ. หรือบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายเช่นเดียวกัน แต่ผู้ถือครองจะไม่มีสิทธิในการเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้เงินปันผลก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ เนื่องจากหุ้นประเภทนี้มีการซื้อขายที่น้อยกว่าหรือที่เรียกว่า มีสภาพคล่องต่ำกว่านั่นเอง
ความแตกต่างระหว่างการเทรดหุ้นและการลงทุนในหุ้น
สำหรับการเทรดหุ้นและการลงทุนในหุ้นนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ทั้ง 2 รูปแบบมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไรเช่นเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกัน คือ การใช้กลยุทธ์, วิธีการ และระยะเวลาในการลงทุน เพื่อให้ตอบโจทย์กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคนให้ได้มากที่สุด โดยความแตกต่าง ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การเทรดหุ้น คือ การซื้อขายหุ้น เพื่อการทำกำไรในระยะสั้น ๆ ภายในระยะเวลาที่ตลาดหุ้นเปิด-ปิดในวันนั้น ซึ่งเทรดเดอร์มักจะใช้กลยุทธ์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อศึกษาแนวโน้มของตลาด ณ ตอนนั้น ว่า มีหุ้นตัวไหนที่น่าสนใจหรือมาแรงบ้าง จากนั้นเทรดเดอร์จะใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์กราฟราคาของหุ้นครับ
ส่วนการลงทุนในหุ้น คือ การถือครองหุ้นตัวที่เราสนใจในระยะเวลาที่ยาวนาน โดยจะมีระยะเวลาขั้นต่ำ 5-10 ปีขึ้นไป ซึ่งนักลงทุนจะเลือกศึกษาผลประกอบการของบริษัทย้อนหลัง และวิเคราะห์แนวโน้มในการเติบโตของกิจการในอนาคต เพราะนักลงทุนเชื่อว่า บริษัทที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะสร้างมูลค่าและผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่นักลงทุนในระยะยาวได้
เกณฑ์การพิจารณาและเลือกหุ้นไทย
เกณฑ์การพิจารณาและเลือกหุ้นจะช่วยให้คุณสามารถเลือกสรรหุ้นปันผลที่มีผลกำไรที่ดี อีกทั้งยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเกณฑ์การพิจารณา ดังต่อไปนี้
1. แนวโน้มของธุรกิจ
ธุรกิจมีการเติบโตที่ดีหรือไม่ โดยพิจารณาจากความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมไปถึงการพิจารณาอนาคตการเติบโต ซึ่งควรเลือกธุรกิจที่มีแนวโน้มในการไปต่อและยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว
2. ฐานะทางการเงินของธุรกิจ
ธุรกิจที่น่าลงทุนควรมีฐานะทางการเงินที่สามารถพิจารณาได้จากโครงสร้างหนี้ โดยต้องประเมินว่า หนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) มีค่าสูงหรือไม่ อีกทั้ง ยังต้องพิจารณาถึงกระแสเงินสด ซึ่งสามารถประเมินได้จากผลประกอบการของธุรกิจย้อนหลัง 5 ปีขึ้นไป หากกระแสเงินสดเป็นบวกเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงจะแสดงให้เห็นว่า บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ
3. หุ้นมีสภาพคล่องหรือไม่?
คุณควรเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงในการซื้อขาย โดยพิจารณาจาก หุ้นของผู้ถือรายย่อย (Free Float) จะต้องไม่น้อยกว่า 15% ตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้กำหนด
4. ค่า Price to Earning Ratio (P/E)
คุณควรพิจารณาค่า Price to Earning Ratio (P/E) โดยเป็นอัตราการเปรียบเทียบระหว่างราคาของตลาดหุ้นต่อกำไรสุทธิของหุ้น ซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบความคุ้มทุนของหุ้นตัวนั้น ๆ ให้นักลงทุนได้ โดยควรซื้อ P/E ที่ต่ำและขาย P/E ที่สูงออกไป แต่บางกรณีหุ้น P/E สูงก็ยิ่งน่าลงทุน หากเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งสามารถคำนวณได้จาก P/E หารด้วย Growth Stock (แนวโน้มของกำไรที่เพิ่มขึ้น) หากได้ต่ำกว่า 1% เท่าไหร่จะถือว่าดีมาก
5. Price to Book Value (P/BV)
คุณควรพิจารณาค่า Price to Book Value (P/BV) ที่เป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อมูลค่าทางเดินบัญชี
10 หุ้นไทยมาแรง พื้นฐานดีปี 2023 ซื้อตัวไหนดี?
ตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนเข้ามาจับจองซื้อขายหุ้นอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า หุ้นตัวใดจะได้ผลตอบแทนมากที่สุด แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่มที่มีพื้นฐานที่ดีกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ดังนั้น ทางทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 หุ้นไทย พื้นฐานดีปี 2023 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. EA
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 240,585.00
- P/E (เท่า) : 25.00
- P/BV (เท่า) : 5.69
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 0.47%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 39.89
ข้อมูลทั่วไป :
EA หุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ออกจำหน่าย โดยบริษัทดำเนินธุรกิจหลักอยู่ 4 รายการ ได้แก่ 1.) กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล 2.) กลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ 3.) กลุ่มธุรกิจโรงงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และ 4.)กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เช่น ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่, ยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
2. DELTA
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 1,359,645.96
- P/E (เท่า) : 82.36
- P/BV (เท่า) : 23.33
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 0.37%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 22.36
ข้อมูลทั่วไป :
DELTA หุ้นของบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัทนี้ คือ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดระบบกำลังไฟฟ้า (Power Management Solution) อีกทั้งยังรวมถึงการดำเนินธุรกิจประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท เช่น พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ และอีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
3. PTT
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 1,013,986.37
- P/E (เท่า) : 13.57
- P/BV (เท่า) : 0.92
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 5.63
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 48.88
ข้อมูลทั่วไป :
PTT หุ้นของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทนี้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ, ธุรกิจระบบท่อก๊าซธรรมชาติ, ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและโครงสร้างขั้นพื้นฐาน อีกทั้งยังดำเนินกิจการร่วมกันกับกลุ่มบริษัทอื่น ๆ ได้แก่ 1.) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว 2.) ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก 3.) ธุรกิจไฟฟ้า และ 4.) ธุรกิจถ่านหิน
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
4. TTB
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 168,546.09
- P/E (เท่า) : 10.26
- P/BV (เท่า) : 0.75
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 4.19%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 29.78
ข้อมูลทั่วไป :
TTB หุ้นของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยดำเนินการธุรกิจธนาคารพาณิชย์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.) กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 2.) ลูกค้าเอสเอ็มอี และ 3.) ลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีกลุ่มไอเอ็นจีของสถาบันการเงินประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับกระทรวงการคลัง
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
5. ADVANC
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 645,403.51
- P/E (เท่า) : 23.61
- P/BV (เท่า) : 7.41
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 3.54%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 36.24
ข้อมูลทั่วไป :
ADVANC หุ้นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทดำเนินกิจการในการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจดิจิทัล เซอร์วิส
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
6. IVL
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 161,418.37
- P/E (เท่า) : –
- P/BV (เท่า) : 0.85
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 5.57%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 35.15
ข้อมูลทั่วไป :
IVL หุ้นของบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินกิจการประเภทธุรกิจด้านการลงทุนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแบบครบวงจร โดยผลิตและจัดจำหน่ายเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์, Ethylene Oxide และเส้นใยจากขนสัตว์ เป็นต้น
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
7. CPALL
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 586,147.36
- P/E (เท่า) : 38.12
- P/BV (เท่า) : 5.73
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 1.15%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 59.03
ข้อมูลทั่วไป :
CPALL หุ้นของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ลูกค้าปลีกรายย่อยในประเทศไทยดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อีกทั้งยังดำเนินกิจการเป็นตัวแทนชำระค่าบริการและลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” อีกด้วย
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
8. AOT
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 1,046,427.53
- P/E (เท่า) : 259.89
- P/BV (เท่า) : 9.81
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : ยังไม่ประกาศรายละเอียดปันผลประจำปี (ธันวาคม 2023)
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 30.00
ข้อมูลทั่วไป :
AOT หุ้นของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจประเภทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย โดยดำเนินกิจการที่ประกอบไปด้วยการดำเนินงาน, การจัดการ และการพัฒนาท่าอากาศยาน ซึ่งมีท่าอากาศยานทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง, ท่าอากาศยานเชียงราย และท่าอากาศยานภูเก็ต
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
9. KBANK
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 311,566.58
- P/E (เท่า) : 8.83
- P/BV (เท่า) : 0.61
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 3.04
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 79.66
ข้อมูลทั่วไป :
KBAK หุ้นของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ โดยมีทั้งหมด 824 สาขา ในประเทศไทย อีกทั้งยังมีเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์สำหรับทำธุรกรรมด้วยตนเองอีก 10,953 เครื่อง ซึ่งสามารถครอบคลุมทุกพื้นที่และเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ธนาคารยังมีเครือข่ายในต่างประเทศถึง 16 แห่ง ใน 8 ประเทศอีกด้วย
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
10. KTB
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ล้านบาท) : 273,930.80
- P/E (เท่า) : 7.45
- P/BV (เท่า) : 0.71
- อัตราเงินปันผลตอบแทน (%) : 3.48%
- %ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free Float) : 44.93
ข้อมูลทั่วไป :
หุ้น KTB เป็นหุ้นของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจประเภทธนาคารพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบ โดยมีสาขาอยู่ภายในประเทศไทยและต่างประเทศถึง 7 ประเทศทั่วโลก เช่น อินเดีย, สิงคโปร์, และกัมพูชา เป็นต้น
เว็บไซต์ติดตามหุ้น : Set.or.th
คุณกำลังมองหาบทความเกี่ยวกับหุ้นที่น่าสนใจ อยู่หรือเปล่า?
สุดยอด! 10 หุ้นปันผลสูง 2566 หุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน จ่ายปันผลมานานกว่า 10 ปี
หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนกันยายน 2566 ประชาชนทั่วไปซื้อได้ ดอกเบี้ยสูง ห้ามพลาด!
7 แอปเทรดหุ้นยอดนิยม แอปออนไลน์ไหนดี? สำหรับคนไทย ปี 2023
สรุป
10 หุ้นไทยมาแรง พื้นฐานดีปี 2023 ซื้อตัวไหนดี เป็นเพียงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับหุ้นที่น่าสนใจเพียงเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาและพิจารณาการเลือกหุ้นที่ตนเองสนใจให้ละเอียดรอบคอบ อีกทั้งคุณจำเป็นต้องพิจารณาแนวโน้มของการเติบโตของบริษัทนั้น ๆ อีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News