ปัจจุบันในช่วงที่ผ่านมา เวียดนามถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงประเทศในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น นโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ทำให้มีโครงการลงทุนใหญ่ๆมากมายเกิดขึ้น และปัจจัยพื้นฐานของเวียดนามก็เป็นจุดสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาดหุ้นเวียดนามไปได้ดี เราจะมาให้ละเอียดกันมากขึ้น ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีดีอย่างไรและน่าลงทุนหรือไม่ ไปดูกัน
หุ้นเวียดนามไม่มีเจ้าของ
ต้องบอกก่อนเลยว่าจะมีความแตกต่างกับหุ้นไทย ที่ตัวหุ้นเวียดนามนั้นไม่มีเจ้าของ ซึ่งจริงๆแล้วหมายความว่า เจ้าของที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนใหญ่มักจะเป็นหน่วยงานรัฐเนื่องจากเวียดนามเพิ่งเปิดประเทศเป็นระบบทุนนิยม ที่เป็นการให้สิทธิประชาชนในการเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ดังนั้น บริษัทมักจะมีแต่ผู้บริหาร โดยที่บ่อยครั้งก็จะไม่เน้นสร้างมูลค่าให้กับหุ้น
เป็นตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market)
Frontier Market หรือหุ้นชายขอบ ถูกจำกัดความหมายไว้ว่า เป็นกลุ่มประเทศที่เริ่มพัฒนา รายได้ต่อหัวค่อนข้างต่ำ สัดส่วนของคนชั้นกลางไม่มาก จึงจัดตลาดหุ้นเวียดนาม รวมอยู่กับอีก 20 ประเทศ เช่น บังคลาเทศ ศรีลังกา บาร์เรน จอร์แดน เลบานอน โอมาน และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออกและแอฟริกา ส่วนที่ประเทศไทยอย่างเราจัดอยู่ในกลุ่ม Emerging market (ตลาดหุ้นเกิดใหม่) ที่เหมือนกับตลาดหุ้นจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายต่อวันแซงแทบทุกประเทศในอาเซียน แต่ยังยกเว้นไทย
การกระจายของผู้ถือหุ้นจำนวนมาก
ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดที่มักจะเป็นต่างชาติ หรือ ที่เป็นบุคคลหรือสถาบันที่ไม่ใช่รัฐนั้น จะถือหุ้นเพียง 10-20% คนที่ถือรองลงมาก็จะถือกันคนละ 2-3% และก็มีไม่มาก ดูไปแล้วอาจจะคล้าย ๆ บริษัทในตลาดหุ้นเจริญแล้วอย่างในสหรัฐที่เป็นบริษัทมหาชนอย่างแท้จริง
บทสรุปส่งท้ายก็เห็นภาพรวมของ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ ก็ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากพอ และน่าลงทุนเช่นกัน และหากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น