ปัจจุบันการลงทุนในตลาดหุ้นถือเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เติบโต อย่างเช่นสหรัฐอเมริกา หรือแม้กระทั่งประเทศจีนเอง ที่ก่อนหน้านี้เจอพิษวิกฤติ Covid-19 ไปแต่ก็ยังสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักตลาดหุ้นจีนกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
ตลาดหุ้นจีน มีทั้งหมด 6 ตลาดดังนี้
A-Share, B-Share, H-Share, Red-Chip, P-Chip และ ADRs แต่ตลาดที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมเข้าไปลงทุน คือ A-Share, H-Share และ ADRs
A-Share คืออะไร
คือ ดัชนีของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในมีฐานธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ ประกอบด้วยตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) และ ตลาดหุ้นเซินเจิ้น (Shenzhen) โดยคำนวณรวมกันแบบถ่วงน้ำหนัก สกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขายคือ หยวน (RMB)
บริษัทที่อยู่ใน A-Share มีอยู่ประมาณ 3,800 บริษัท โดย 3 อันดับแรกของธุรกิจที่มี Market Cap สูงสุด ได้แก่ 1.กลุ่ม Financial 2.กลุ่ม Industrial 3.กลุ่ม Consumer staple
ส่วนใหญ่จะลงทุนใน “เศรษฐกิจยุคใหม่” (New Economy) ของจีน เน้นการเปลี่ยนแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการบริโภคในประเทศมากขึ้น
ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ใน A-Share เช่น Ping An Insurance, Kweichow Moutai, Wuliangye Yibin, Yunnan Baiyao Group, Shenzhen SC New Energy Technology, Bank of China
H-Share
คือ ดัชนีของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนและทำธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ Listed ตัวเองในตลาดหุ้นฮ่องกงแทน ซึ่ง H ในที่นี้ย่อมาจาก Hang Seng China Enterprise Index (HSCE) สกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขายคือ ฮ่องกงดอลล่าร์ (HKD) หุ้นกลุ่มนี้เปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างเสรี และได้รับความนิยมจากนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทที่อยู่ใน H-Share ไม่เกิน 100 บริษัท และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มี Market Cap สูงสุด คือ กลุ่ม Financial รองลงมา คือ กลุ่ม Information Technology
ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ใน H-Share เช่น Tencent, Alibaba Group, China Mobile, Bank of China, Meituan, China Construction Bank Corp, Ping An Insurance
ADRs
คือ กลุ่มบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ADR ย่อมาจาก American Depositary Receipts เป็นใบรับฝากหุ้นที่ออกโดยสถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเป็นเจ้าของในหุ้นที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อหรือขาย ADR ได้เหมือนหลักทรัพย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
บริษัทด้านเทคโนโลยีของจีนนิยมมาจดทะเบียนในตลาดสหรัฐ เนื่องจากในประเทศจีนมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่า รวมถึงเพื่อขยายฐานนักลงทุน และเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบันมีตราสาร ADRs ของจีนจำนวน 233 หลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ
ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ใน ADRs เช่น Tencent Holdings, TAL Education Group, PetroChina, Alibaba, New Oriental Education & Technology Group, NetEase
ประเทศจีนก็ถือเป็นอีก 1 ประเทศที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมากเห็นได้จากบริษัทต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักในสายตาชาวโลก ไม่ว่าจะเป็น Tencent Alibaba อย่างไรก็ตามหากเราจะเลือกลงทุนในบริษัทอะไรก็แล้วแต่ ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลบริษัทให้ดีก่อนที่จะลงทุนนะครับ