นายธนาคารกลางที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกจะประชุมกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีที่ปกติจะจัดขึ้นที่ Jackson Hole รัฐ Wyo แต่เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 จึงเปลี่ยนมาจัดประชุมผ่าน video conference ซึ่งทุกสายตาจับจ้องที่การพูดของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
โดยประเด็นหลักๆของการประชุมในครั้งนี้ก็คือ การหาวิธีดำเนินนโยบายกับเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน และเรื่องของความเหลื่อมล้ำของประชากรที่เริ่มเพิ่มขึ้นในทุกๆปี และนอกจากนี้ Fed อาจจะพูดในเรื่องของแผนการลด QE ซึ่งหากมีการพูดถึงจะนำไปสู่การผันผวนของราคาสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ น้ำมัน บิทคอย หรือแม้แต่ สกุลเงินต่างประเทศเองก็อาจจะสะเทือนได้
เป็นเวลาหลายเดือนที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่การเติบโตของงานช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภัยคุกคามใหม่ที่เกิดจากตัวแปรไวรัสสายพันธ์ใหม่“เดลต้า”ที่แพร่ระบาดอย่างมากทั่วโลก
ประเด็นนี้ซับซ้อนเนื่องจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในหมู่สมาชิกคณะกรรมการตลาดกลางแห่งสหพันธรัฐ รายงานการประชุมเดือนกรกฎาคมของเฟดแสดงให้เห็นว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ “ส่วนใหญ่” เตรียมพร้อมที่จะลดการซื้อสินทรัพย์รายเดือนลง 120,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่คนส่วนหนึ่งมีความเห็นว่า ควรรอจนถึงปี 2022 จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
งบดุล FED สูงถึง $8T เป็นครั้งแรก
พาวเวลล์อาจให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเช้าวันศุกร์เมื่อเขาได้ขึ้นพูดสุนทรพจน์ แต่วอลล์สตรีทมีความมั่นใจน้อยลงกว่าสัปดาห์ก่อน ว่าเฟดกำลังเตรียมที่จะหยุดการสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว โดยการตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของthe Kansas City ในการยกเลิกงานสองวันแบบดั้งเดิมและเปลี่ยนเป็นการประชุมเสมือนวันเดียวในวันศุกร์แทน
“เราอาจจะไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับเวลา จำนวน และแผนงานในการลด QE ที่ตลาดต้องการ ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ [Alan] Greenspan และ [Ben] Bernanke ใช้ Jackson Hole ในการประกาศนโยบายสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดการเงินทั่วโลก” Joe Brusuelas หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RSM กล่าว
Brusuelas คาดว่า Powell จะยืนยันแนวโน้มเศรษฐกิจในการการประชุมเดือนกรกฎาคมของ Fed ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์
ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ใหญ่มากๆ เนื่องจากมีการรวมตัวของนายประธานคารหลากหลายประเทศเข้ามาปรึกษาหารือกันอย่างไรก็ตามต้องรอดูกันต่อไปว่าการประชุมครั้งนี้จะมีเหตุการณ์ใดที่สำคัญเกิดขึ้นบ้างที่จะส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ