หากดูจากชื่อหัวข้อ มันค่อนข้างน่าสนใจเลยใช่ไหมครับ ทำไมผมถึงเขียนว่า “DAO องค์กรแบบกระจายอำนาจ กับแนวคิดกระโดดข้ามการควบคุมจากรัฐบาล” ก่อนอื่นเลย ผมเชื่อว่า ทุกคนต่างก็เคารพในสิทธิ์และเสียงของตัวเอง มันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก หากเมืองที่เราอาศัยอยู่นั้นสามารถบริหารจัดการ หรือถูกพัฒนาด้วยความตั้งใจของประชาชน
หากเราต้องการพัฒนาเมืองไปในทิศทางนี้ ก็สามารถใช้สิทธิ์และเสียงของตัวเองในการนำทาง ไม่ต้องมีตัวแทน หรือหน่วยงานที่คอยเข้ามากำหนดในการอนุมัติงบประมาณจัดสรรโครงการต่าง ๆ เพราะบางทีกว่าจะอนุมัติได้นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาไปหลายวัน หลายเดือน หรืออาจจะหลายปี
ดังนั้น หากเรานำเทคโนโลยี DAO (องค์กรแบบกระจายอำนาจ) เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ มันจะสามารถตัดสินใจได้ทันทีเลยว่า กลุ่มคนส่วนใหญ่ต้องการจะพัฒนาเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่ไปในทิศทางไหน และแน่นอนเลยครับว่า มันคงเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยี DAO ที่รันอยู่บนบล็อกเชนนั้น ทำให้การตัดสินใจของเราเป็นไปได้ง่ายมากขึ้นครับ
และในบทความนี้ ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยี DAO ให้มากขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่า หากคุณได้เข้าใจถึงการทำงานของมันแล้ว คุณจะลืมภาพการบริหารจัดการภายในองค์กรแบบเดิม หรือการบริหารประเทศในรูปแบบเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคยไปเลยครับ เพราะมันจะถูกแทนที่ด้วยไอเดียใหม่ ๆ ของคุณทันที แล้วความเจ๋งของเทคโนโลยี DAO นี้ มีอะไรกันบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
DAO องค์กรแบบกระจายอำนาจ คืออะไร?
DAO (Decentralized Autonomous Organizations) คือ องค์กรแบบกระจายอำนาจโดยอัตโนมัติ ซึ่งย่อมาจาก Decentralized Autonomous Organizations เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากคุณสมบัติของ Cryptocurrency โดยมี Concept ดั้งเดิม คือ การกระจายอำนาจที่ไม่ถูกควบคุมจากหน่วยงานกลางใด ๆ เป็นการกระจายสิทธิ์ กระจายอำนาจระหว่าง Node ต่าง ๆ มันจึงมีความปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างสูงเอามาก ๆ
นิยามข้างต้นที่ผมได้กล่าวไป บางท่านอ่านมาถึงตรงนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เทคโนโลยี DAO หรือองค์กรแบบกระจายอำนาจนี้ มันสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง ผมจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจให้ลึกกว่านี้ครับ มารู้จักที่มาที่ไปของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้กันก่อน
บางท่านอาจจะคิดว่า DAO เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งถูกพัฒนามาไม่นาน แต่เอาจริง ๆ แล้ว เทคโนโลยีนี้เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2016 หรือก็คือ เมื่อ 6 ปีที่แล้วครับ โดยเป็นการประยุกต์ใช้งานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยี Blockchain และ Smart contract เพื่อพัฒนาขึ้นไปเป็น Decentralize Application (DApp) ซึ่งการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาผนวกทำงานร่วมกัน มันเป็นอะไรที่เจ๋งเอามาก ๆ เลยครับ
การทำงานภายใน DAO ทั้งการทำธุรกรรมการเงิน หรือการกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่แต่ละ Node ได้ทำการเสนอกฎเกณฑ์ขึ้นมานั้นจะมีการบันทึกข้อมูลไว้บนเทคโนโลยี Blockchain ทำให้ข้อมูลเหล่านี้จะไม่ผ่านหน่วยงาน หรือบุคคลที่ 3 เลยครับ เพราะมันเป็นการทำ Smart Contract หรือที่เราเรียกกันว่า “สัญญาอัจฉริยะ” ทำให้การทำธุรกรรม หรือการใช้สิทธิ์และเสียงในการออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ นั้น ทำได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้ง ยังทำให้ข้อมูลที่ถูกเก็บบนเทคโนโลยี Blockchain สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ถือเป็นความโปร่งใส และจุดเด่นขององค์กรแบบกระจายอำนาจเลยครับ
DAO องค์กรแบบกระจายอำนาจ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
DAO องค์กรแบบกระจายอำนาจ เป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาบนแนวคิด “เทคโนโลยีสามารถกำจัดข้อผิดพลาดความคิดของมนุษย์บางกลุ่มได้” จึงทำให้มีการมอบอำนาจการตัดสินใจอยู่บนระบบอัตโนมัติที่ถูกดำเนินไปด้วยความคิดของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่คอยกำหนดทิศทางในการพัฒนาองค์กร
ส่วนการทำงานของเทคโนโลยี DAO ได้ถูกออกแบบมาในลักษณะให้นักลงทุนนำเงินตัวเองส่งเข้ามาที่เทคโนโลยี DAO โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่า เราคือใคร จากนั้นระบบจะทำการกระจายเหรียญ Token คืนไปให้แก่นักลงทุน ซึ่งจำนวนเหรียญ Token นี้ จะทำให้นักลงทุนสามารถมีสิทธิและเสียงในองค์กรนั้น ๆ ตามจำนวนเหรียญ Token ที่ตัวเองถืออยู่ครับ
โดยเทคโนโลยี DAO ทำงานอยู่บนพื้นฐานของการทำ Smart Contract ของเครือข่าย Ethereum ที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานแบบกระจายอำนาจได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ Open Source ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถเข้ามาปรับแต่งแก้ไข หรือพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกันได้ ดังนั้น เราจึงมั่นใจได้เลยว่า การทำงานอยู่บนเครือข่าย Ethereum นี้ มีการกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามากำกับดูแลได้ครับ
ตัวอย่างโครงการสุดเจ๋งที่นำเทคโนโลยี DAO ไปใช้ในการระดมทุน
ตอนนี้เราอาจจะมองว่า เทคโนโลยี DAO ยังเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเรา แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมคิดว่า หลาย ๆ องค์กรน่าจะนำระบบการการะจายอำนาจนี้เข้ามาใช้ในการตัดสินใจ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างแน่นอน เราจะเห็นว่า ในปัจจุบัน ได้มีหลาย ๆ โครงการที่เริ่มใช้กันแล้วด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป
หลักการการทำงานของเทคโนโลยี DAO คือ บริษัทนำเทคโนโลยี DAO มาใช้ในการระดมลงทุน เพื่อนำเงินทุนไปขยายกิจการต่อ ทำให้นักลงทุนที่ระดมทุนเข้ามานั้นมีสิทธิมีอำนาจในการตัดสินใจได้ หรือถ้าเป็นการกุศลต่าง ๆ ก็สามารถทำให้คนทั่วไปบริจาคเงินเข้ามาจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก และคนที่บริจาคเข้ามาก็จะสามารถตรวจสอบได้ครับ
ถ้าจะให้เห็นภาพมากกว่านี้ ผมขอยกตัวอย่างโครงการ DAO สุดเจ๋งของต่างประเทศที่มีความน่าสนใจเอามาก ๆ มันถูกเรียกว่าโครงการ LinkDAO ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อระดมทุนในการพัฒนาสนามกอล์ฟของตัวเอง โดยการขาย NFTs ให้กับคนที่สนใจเข้าร่วม ทำให้ผู้ที่ถือ NFTs ได้รับผลตอบแทน ส่วนแบ่งรายได้ แล้วยังมีสิทธิ์และอำนาจในการร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาสนามกอล์ฟ ทำให้โครงการนี้มีผลตอบรับที่ดีเอามาก ๆ นักลงทุนแห่เข้ามาร่วมระดมทุนมากกว่า 10.5 ล้านเหรียญ
สรุปภาพรวมเทคโนโลยี DAO องค์กรแบบกระจายอำนาจ
สุดท้ายนี้ ผมขอสรุปให้ทุกคนได้เข้าใจตัวเทคโนโลยี DAO กันอีกครั้งนะครับ อย่างที่เราได้อ่านไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีสุดเจ๋งนี้มันโปร่งใสมาก ๆ เพราะ DAO เป็นเทคโนโลยีที่ยกระดับองค์กรแบบเดิมให้พัฒนามาเป็นองค์กรแบบกระจายศูนย์ โดยการเขียน Code เพื่อให้ทุกคนที่เข้าร่วมลงทุนนั้นสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งเป็นองค์กรแบบปกครองตัวเอง และไม่จำเป็นต้องอาศัยความคิดจากคนใดคนหนึ่ง
ส่วนเงื่อนไขที่เราได้นำเสนอแนวทางร่วมกันนั้น จะถูกบันทึกไว้บนเทคโยโลยี Blockchain ซึ่งเป็นรูปแบบ Smart Contract ที่มีความโปร่งใส ทำให้อนาคตอันใกล้ เทคโนโลยี DAO นี้ อาจเข้ามาแก้ปัญหาการคอรัปชั่น เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือองค์กรต่อไปได้ครับ
บทความที่ผมได้นำมาเสนอในครั้งนี้ หวังว่า จะมีประโยชน์ต่อคนที่เสิร์ชเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี DAO ทำให้ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นจากตัวอย่างที่ผมนำเสนอไปข้างต้น เพื่อนำไปต่อยอดข้อมูล ตลอดจนสามารถนำไปพัฒนาโครงการของตัวเองต่อไปครับ
Source: cointelegraph
——————————————————————————————————————————————
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News