สิ่งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นเทรด Forex คือ การศึกษาพื้นฐานของ Forex เพราะการเริ่มต้นที่ดี จะช่วยให้คุณไปได้ไกลอย่างมั่นคง
1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานของ Forex โดยต้องทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานว่า Forex คืออะไร? เทรดอย่างไร? ต้องรู้อะไรบ้างในการเทรด? และศึกษาเกี่ยวกับตลาด Forex อย่างละเอียด ศึกษากราฟชนิดต่างๆ ทั้งกราฟปกติ กราฟแท่งเทียน หรือแนวโน้มการเคลื่อนตัวของกราฟ Forex ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่ควรรู้ในกาที่จะรก้าวเข้ามาเทรดในตลาด Forex
2. แนวรับ-แนวต้านของกราฟ Forex สิ่งที่จำเป็นต้องรู้อีกอย่างคือ แนวรับ-แนวต้าน เพื่อที่จะทำการวิเคราะห์กราฟและสามารถทำกำไรเพิ่มได้มากขึ้น โดยความหมายของแนวรับและแนวต้าน มีดังต่อไปนี้
- แนวรับ เป็นเส้นที่เราสามารถสร้างขึ้นมาบนกราฟ (ปกติจะเป็นจุดที่ต่ำสุด) โดยแนวรับ คือ ช่วงที่กราฟราคาจะไม่สามารถทะลุผ่านจุดราคาหรือเส้นที่เรากำหนดไว้ได้ ทำให้กราฟราคาเกิดการพลิกผันและวิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจากเดิม
- แนวต้าน เป็นเส้นที่ถูกสร้างขึ้นมาบนกราฟ (ปกติจะเป็นจุดที่สูงสุด) โดยแนวต้านเป็นช่วงที่กราฟราคาไม่สามารถสูงไปมากกว่าเส้นที่กำหนดไว้ได้ ทำให้กราฟราคาเกิดการพลิกผันและกลับตัววิ่งลงต่ำเรื่อยๆจากเดิม
3. ทดลองเทรด Forex ในบัญชี Demo ซึ่งบัญชี Demo หรือบัญชีทดลองเทรด ซึ่งเป็นบัญชีประเภทหนึ่งที่เราสามารถซ์้อขายได้โดยไม่ต้องใช้เงินจริง มีเงื่อนไขกติกาเหมือนจริงทุกประการ เพื่อให้เราได้ลองฝึกการเทรด ทดลองระบบการเทรด และแม้จะขาดทุน เงินจริงในบัญชีของเราก็ไม่สูญหาย
- ข้อดีของบัญชี Demo คือ สามารถทดลองเทรดได้เต็มที่โดยปลอดภัยกับเงินจริงของเราเอง สามารถลองผิดลองถูกได้ตามต้องการ
- ข้อเสียของบัญชี Demo คือ อาจใส่ใจรายละเอียดน้อยลง เพราะเงินในบัญชีไม่ใช่เงินจริงของเรา และทำให้เสียดายเงินในบัญชี Demo หากเราทดลองเทรดและได้กำไรเยอะ
4. เรียนรู้และศึกษาอินดิเคเตอร์ (Indicator) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเทรด ซึ่งหน้าที่หลักของอินดิเคเตอร์ คือ เป็นตัววัดสภาวะการเทรดในตลาด ทำให้สามารถบอกข้อมูลที่ต้องการรู้ได้ แต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกประเภท จะช่วยให้เราตัดสินใจในการเทรดได้ง่ายขึ้น ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก เราสามารถรู้ได้ว่าจุดนี้เป็นจุดปลอดภัยหีือไม่ และสามารถบอกจุดซื้อขายได้ เพื่อใช้ในการปิดคำสั่งซื้อ-ขายได้นั่นเอง
5. การบริหารและจัดการ Money Management ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพื้นฐานที่สำคัญกับนักเทรดทุกคน โดย Money Management คือ การจัดสรรเงินทุนไม่ให้สูญหายไปไหน โดยสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Money Management มีทั้งการใช้ Stop Loss ซึ่งจะช่วยป้องกันการขาดทุนที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้, การกำหนดเป้าหมายกำไรในแต่ละวัน ช่วยให้เทรดอย่างมีแบบแผน, การเทรดด้วย Lot ที่เหมาะสมกับเงินทุนที่มีอยู่ และทั้งหมดนี้ จะช่วยป้องกันเงินทุนของเราเมื่อเกิดการเทรดที่ผิดพลาดหรือไม่สำเร็จ
กระแสการลงทุนในยุคนี้ถือว่ามาแรงมากๆ หากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น