ตลาดคริปโต และตลาดหุ้น เจ็บหนักหลังจากการรายงานอัตราเงินเฟ้อในวันที่ 13 กันยายน ชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% ต่อเดือน ส่งผลให้ราคาของ BTC และ ETH รวมถึงหุ้นต่างร่วงลงตาม ๆ กัน
ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนก็ตาม แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงพุ่งขึ้นกว่า 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และอัตราเงินเฟ้อต่อปี อยู่ที่ 8.3% เลยทีเดียว
นักลงทุนคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในครั้งต่อไปจะอยู่ที่ 0.75 จุด แต่หลายคนยังคาดการณ์กันว่า รายงาน CPI ของวันที่ 13 กันยายนนั้น จะเบากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่สรุปก็ชัดแล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้ามทั้งหมด
ทางด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ในเดือนสิงหาคม อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) เพิ่มขึ้นเป็น 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากที่ตลาดคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 8.1% (YoY) และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน (MoM) จากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่า จะลดลง 0.1% เช่นเดียวกันกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้นเป็น 6.3% (YoY) จากที่ตลาดคาดการณ์เอาใว้ว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.1% และเพิ่มขึ้น 0.6% (MoM) จากที่ตลาดคาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ ดาวโจนส์ร่วงลง 2.6% ในขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลงประมาณ 2.9% และ 3.6% ตามลำดับ โดยตามธรรมชาติแล้ว สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก็จะลดลงเช่นเดียวกัน และราคา BTC ก็ลดลงกว่า 9% เหลือ 20,200 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ราคาของ ETH ก็ร่วงลงกว่า 7.29% มาที่ $1,590 รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลใน 100 อันดับแรกต่างก็ราคาลดลงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาของ BTC จะปรับตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ และพุ่งขึ้นแตะระดับที่ 22,800 ดอลลาร์ แต่ก็ยังมีการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ที่เตือนว่า BTC ยังซื้อขายใกล้กับแนวต้านสำคัญ
——————————————————————————————————————————————
Source: Cointelegraph
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News