ค่า Swap หรือค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์จะต้องเสียให้กับโบรกเกอร์ในกรณีที่มีการถือออเดอร์ข้ามคืน ซึ่งค่าธรรมเนียมดังกล่าวส่งผลต่อผลตอบแทนจากการเทรดของเทรดเดอร์โดยเฉพาะกับเทรดเดอร์สายเทรดตามแนวโน้มหรือสายเทรดระยะยาว แล้วเทรดเดอร์จะมีวิธีหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้ไหม ติดตามกันได้บทความนี้เลยครับ
——————–🐣——————–
ค่า Swap คืออะไร?
ค่า Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ย ที่เกิดจากการเปิดสถานะซื้อ-ขายแบบข้ามคืน ซึ่งคำว่าการถือออเดอร์แบบข้ามคืนไม่ได้หมายความว่าเทรดเดอร์จะต้องถือออเดอร์ครบ 24 ชั่วโมง แต่นับตามเวลาปิดของแต่ละวัน ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นเวลาประมาณ 05.00 น. หมายความว่า แม้เทรดเดอร์จะเปิดออเดอร์เพียง 2 ชั่วโมง ก่อนเวลาปิดของตลาด เทรดเดอร์ก็จะเสียค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์ข้ามคืนครับ
⚠️ ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์ควรวางแผนการเทรดของตนเองให้ดี เนื่องจากค่า Swap ถือเป็นอีกหนึ่งต้นทุนในการเทรดที่จะต้องเสียให้กับโบรกเกอร์ครับ
ทำความรู้จัก Triple Swap ค่า Swap ในคืนวันพุธ
ค่า Triple Swap หรือค่า Swap ในคืนวันพุธ คือ ค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์ข้ามคืนในวันพุธที่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นคิดเป็น 3 เท่า โดยนับวันพุธ, วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ โดยมีสาเหตุมาจากการเรียกเก็บเพิ่มเติมในส่วนที่ตลาดมีการปิดตามปกติในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งค่า Swap ในวันนี้สามารถเป็นได้ทั้งบวกและลบครับ
ค่า Swap มีกี่ประเภท ?
- ค่า Swap แบบ Long คือ ค่าธรรมเนียมจากการเปิดออเดอร์แบบ Buy ข้ามคืน
- ค่า Swap แบบ Short คือ ค่าธรรมเนียมจากการเปิดออเดอร์แบบ Sell ข้ามคืน
ซึ่งค่า Swap ทั้งสองประเภทนี้สามารถมีค่าเป็นได้แบบบวกและแบบลบ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าเทรดเดอร์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือได้รับดอกเบี้ยเพิ่มจากการถือออเดอร์ข้ามคืน โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ครับ
- ค่า Swap เป็นบวก เกิดจากอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินหลักสูงกว่าสกุลเงินอ้างอิง ทำให้เทรดเดอร์ได้รับดอกเบี้ยเพิ่ม
- ค่า Swap เป็นลบ เกิดจากอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินหลักต่ำกว่าสกุลเงินอ้างอิง ทำให้เทรดเดอร์ต้องเสียค่าธรรมเนียม
ทำไมเทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบค่า Swap
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ค่า Swap ถือเป็นค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์ต้องคำนึงถึงเสมอ เนื่องจากเป็นต้นทุนที่เทรดเดอร์จะต้องจ่ายเพิ่มให้โบรกเกอร์ในกรณีที่ถือออเดอร์แบบข้ามคืน ซึ่งการเสียค่าธรรมเนียมที่มากจนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อผลตอบแทนของเทรดเดอร์ในอนาคตได้ครับ
วิธีหลีกเลี่ยงค่า Swap ด้วยโบรกเกอร์ Free Swap
เทรดเดอร์สามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์ข้ามคืน (Swap) ด้วยการเลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการแบบ Free Swap ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดต้นทุนจากการเสียค่าธรรมเนียมที่เกินความจำเป็นและเหมาะกับเทรดเดอร์สาย Swing Trade เป็นอย่างมาก
——————–🐣——————–
——————–🐣——————–
——————–🐣——————–
วิธีการคำนวณค่า Swap
เทรดเดอร์สามารถคำนวณค่า Swap ได้ด้วยสูตรดังนี้ครับ
ค่า Swap = [ค่า pips หนึ่งจุด/อัตราแลกเปลี่ยน] x ขนาด Lot x อัตราค่า Swap
ยกตัวอย่างเช่น
หากคุณเปิดออเดอร์ Buy ที่คู่สกุลเงิน USDJPY ด้วยจำนวน 1 Lot (ขนาดสัญญาณ 100,000) ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 147.15 และมีอัตราค่า Swap อยู่ที่ 22.89 แทนค่าลงในสูตร
ค่า Swap = [0.0006/147.15] x 100,000 x 22.89 = 9.33
ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมจำนวน 9.33 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการถือสถานะซื้อ USDJPY 1 Lot แบบข้ามคืนหนึ่งคืน
💡 สำหรับเทรดเดอร์ที่รู้สึกสับสนกับการคำนวณค่า Swap ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากบางโบรกเกอร์มีบริการและโปรแกรมคิดคำนวณแบบครบถ้วนไว้ให้ใช้ทั้งบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มการเทรดครับ
วิธีการตรวจสอบค่า Swap
สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มการเทรด MT4 สามารถตรวจสอบค่า Swap ได้ดังนี้ครับ
- คลิกขวาที่คู่สกุลเงินจากนั้นเลือกคำสั่ง “Symbols”
- เลือกคู่สกุลเงินที่ต้องการตรวจสอบค่า Swap
- กดเลือกที่คำสั่ง “Properties”
- จะปรากฏค่า Swap ทั้งรูปแบบ Long และ Short ขึ้นที่หน้าจอ “Properties”
สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้แพลตฟอร์มการเทรด MT5 สามารถตรวจสอบค่า Swap ได้ดังนี้ครับ
- เลือกคู่สกุลเงินที่ต้องการตรวจสอบ
- คลิกขวาจากนั้นเลือกคำสั่ง “คุณลักษณะ”
- จะปรากฏค่า Swap ทั้งรูปแบบ Long และ Short ขึ้นที่หน้าจอ “คุณลักษณะ”
ปัจจัยที่มีผลต่อค่า Swap
อย่างที่เทรดเดอร์ทราบกันดีว่าค่า Swap ในแต่ละวันและในแต่ละคู่สกุลเงินมีค่าไม่เท่ากัน แล้วอะไรทำให้ค่า Swap ไม่เท่ากัน? มาศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อค่า Swap ในหัวข้อนี้กันเลยครับ
- จำนวนวันที่มีการถือออเดอร์ข้ามคืนส่งผลให้ ค่า Swap สูงขึ้น
- โบรกเกอร์ที่ใช้บริการ
- อัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงิน ณ เวลานั้น เป็นตัวบ่งบอกค่าบวกและค่าลบของ Swap
- ความผันผวนของตลาด หากตลาดมีความผันผวนสูง ย่อมส่งผลให้ค่า Swap มีการเปลี่ยนแปลงที่บ่อยขึ้น
- สภาพคล่องในการซื้อขาย โดยเฉพาะกับคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายต่อวันสูง ค่า Swap อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่บ่อยเช่นกัน
ข้อดีและข้อเสียจากการเทรดแบบมีค่า Swap
ข้อดีจากการเทรดแบบมีค่า Swap
- ช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่ได้จากการเทรดในกรณีที่ค่า Swap เป็นบวก
- ใช้กลยุทธ์ Carry Trade เข้ามามีส่วนช่วยในการทำกำไร
ข้อเสียจากการเทรดแบบมีค่า Swap
- เพิ่มต้นทุนในการเทรด โดยเฉพาะการเทรดเพื่อรอทำกำไรในจุดที่ดีที่สุด หรือเป็นจุดพีคของเทรนด์ที่ต้องการ
- ลดโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น จากค่าธรรมเนียมแบบถือออเดอร์ข้ามคืน (ค่า Swap)
- ค่า Swap ที่ผันผวนส่งผลกระทบต่อการเทรดในระยะยาวอย่างชัดเจน เทรดเดอร์ต้องบริหารความเสี่ยงและวางแผนการเทรดให้ดี
- หากเทรดเดอร์มีการถือออเดอร์ข้ามคืนในวันพุธ อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้สูญเสียเงินทุนที่มากกว่าปกติ จากการเรียกเก็บค่า Swap 3 เท่า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่า Swap
ค่า Swap คิดกี่โมง
เนื่องจากค่า Swap จะคิดจากการถือสถานะออเดอร์แบบข้ามเวลาที่ตลาดปิด โดยปกติแล้วจะเริ่มคิดที่เวลา 05.00 น. หรือตี 5 ของทุกวันครับ
ทำไมวันพุธ Swap แพง
เนื่องจากในช่วงของวันเสาร์-อาทิตย์จะไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์ข้ามคืนได้ เพราะเป็นช่วงวันที่ตลาดมีการปิดเป็นปกติ ส่งผลให้วันพุธจึงมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมมากกว่าปกติครับ
ค่า Swap มีกี่ประเภท
ค่า Swap บนแพลตฟอร์มการเทรดจะปรากฏให้เห็น 2 ประเภท ดังนี้ครับ
- ค่า Swap แบบ Long คือ ค่าธรรมเนียมจากการเปิดออเดอร์แบบ Buy ข้ามคืน
- ค่า Swap แบบ Short คือ ค่าธรรมเนียมจากการเปิดออเดอร์แบบ Sell ข้ามคืน
สรุปเกี่ยวกับค่า Swap ค่าธรรมเนียมจากการถือออเดอร์ข้ามคืน
ค่า Swap คือ ค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์จะต้องเสียให้กับโบรกเกอร์ในกรณีที่เทรดเดอร์มีการถือออเดอร์การซื้อ-ขายแบบข้ามคืน ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์จะต้องวางแผนการเทรดของตนเองให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่มากจนเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียต้นทุนที่มากเกินความจำเป็นและได้รับผลตอบแทนจากการเทรดที่ลดลง โดยเทรดเดอร์สามารถหลีกเลี่ยงค่า Swap ได้โดยการเลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News