ในวันจันทร์นี้ สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ถูกกดดันหนัก ส่งผลให้อ่อนค่าลง จากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอลง และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันนั้น ตลาดปรับก็ตัวลดลงก่อนการประชุม FED ที่จะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้
ด้านเงินหยวนของจีนร่วงลง 0.2% ในขณะที่เงินหยวนนอกชายฝั่งลดลง 0.2% หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนตุลาคม ซึ่งกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมมีการหดตัวลงเช่นกัน สาเหตุศูนย์กลางเศรษฐกิจหลายแห่งประสบกับการฟื้นตัวของผู้ติดเชื้อของโรคระบาดโควิด-19
ปัจจัยดังกล่าวยังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนอีกด้วย โดยทางจีนยังคงเผชิญกับการ Lock Down ในปีนี้ และศูนย์กลางเศรษฐกิจอย่างอู่ฮั่นและเฉิงตู ได้นำมาตรการควบคุมโควิด-19 มาใช้อีกครั้ง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ทางด้านนักลงทุนยังระมัดระวังการหยุดชะงักกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน หลังจากที่ปักกิ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นในนโยบายควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งความอ่อนแอในตลาดจีนได้แผ่ขยายไปทั่วเอเชียเป็นวงกว้าง ส่งผลให้รูปีอินเดียลดลง 0.1% ในขณะที่ดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่าลง 0.4%
ส่วนเงินเยนมีการร่วงลง 0.2% หลังในเดือนกันยายนการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวขึ้นไปอีก และแนวโน้มในช่วงสองเดือนข้างหน้ายังคงอ่อนตัวลง ซึ่งเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ส่งผลกระทบหนักต่อค่าเงินเยนในปีนี้ ซึ่งทำให้การซื้อขายสกุลเงินอยู่ใกล้ระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 32 ปีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์ยังมีการซื้อขายทรงตัวในวันจันทร์นี้ โดยดัชนีดอลลาร์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 110 เงินดอลลาร์ แต่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะผู้ค้าคาดธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 75 จุดในวันพุธ ฉะนั้น ยังคงต้องติดตามกันต่อไปครับ