หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าในตลาดการลงทุนนั้น Hedge หรือการ Hedging เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเงินที่คุณลงทุนไป ซึ่งบทความนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงความหมายของการ Hedging รวมทั้งประโยชน์ของการ Hedging Froex
Hedging คือ อะไร?
Hedge หรือการทำ Hedging คือ วิธีป้องกันความเสี่ยงในสถานะการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชย, ป้องกัน และจำกัดการสูญเสียผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน ซึ่งวิธีจะคล้ายคลึงกับการทำกรมธรรม์ประกันภัย อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ Hedging คือ การซื้อขายในราคาเดียวกัน และเวลาเดียวกัน (Buy-Sell ในราคาเดียวกัน) จำนวน Lot เท่ากัน นอกจากที่ Hedging จะช่วยลดปริมาณการขาดทุนให้กับคุณแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย และยังมี Perfect Hedge นั่นคือ Hedge ที่สามารถลดความเสี่ยงทั้งหมดในออเดอร์หรือพอร์ตนั้นได้ โดย Hedge นั้นแปรผกผัน 100% กับทรัพย์สินที่มีความเสี่ยง แต่สิ่งนี้เป็นอุดมคติมากกว่าความเป็นจริงในการลงทุน แม้แต่การป้องกันความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบก็ใช่ว่าจะไม่มีค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างการ Hedging
หากคุณเปิด Buy แล้วเกิดผิดทาง ทำการ Hedging โดยการเปิด Sell ตามลงไป จนถึงแนวรับสำคัญก็ปิด Sell พอราคาเด้งขึ้นมาค่อยปิด Buy ทีหลัง
กลยุทธ์ Hedging
หลักการ Hedging ที่นิยมใช้กัน มีดังนี้
1. การกระจายการลงทุน (Diversification)
แทนที่คุณจะทำการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ให้คุณทำการกระจายการลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงดีกว่า
2. อาร์บิทราจ (Arbitrage)
การซื้อสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง และนำไปขายต่อในทันที แต่เป็นการนำไปขายในตลาดอื่นแทน ซึ่งคุณจะได้ในราคาที่สูงกว่า แต่วิธีนี้ได้ผลตอบแทนไม่มากนัก
3. ถือเงินสดเอาไว้บางส่วน
การนำเงินออกมาลงทุนแค่บางส่วนเท่านั้น และเก็บเงินลงทุนที่เป็นเงินสดไว้ เพื่อป้องกันการขาดทุน
ประโยชน์จากการทำ Hedging
- การทำ Hedging จะช่วยป้องกันความผันผวนของตลาด
- เมื่อเกิดการเทรดที่ผิดพลาด Hedging จะช่วยคุณแก้ไขสถานการณ์ได้ ซึ่งสามารถรอแล้วเข้าทำกำไรทีหลังได้
- ช่วยทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น
การทำ Hedging นับเป็นเทคนิควิธีที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับการป้องกันความเสี่ยงในตลาด Forex แต่ก็จะต้องเสียค่าสเปรด (Spread) ถึงสองเท่า เนื่องจากการเปิดออเดอร์ทั้งสองฝั่งพร้อมกัน แต่หากมีการวิเคราะห์แล้วว่าราคาจะไปทิศทางไหน คุณก็สามารถปิดออเดอร์อีกฝั่งเพื่อทำกำไรได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม กระแสการลงทุนในยุคนี้ถือว่ามาแรงมากๆ หากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น