ในช่วงนี้เราคงเห็นได้ชัดกันเลยนะครับว่า ตลาดสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency เมื่อเกิดความผันผวนทีก็ทำให้ราคาร่วงแทบจะทั้งตลาดเลย สิ่งนี้ทำให้เหล่าเทรดเดอร์ทั้งหลายเริ่มอยากจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อรักษาต้นทุนบ้าง เพราะฉะนั้น Stablecoins จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเทรดเดอร์ครับ ว่าแต่ Stablecoin มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง และในปีนี้เหรียญไหนบ้างที่น่าลงทุน บทความนี้มีคำตอบครับ
Stablecoins คืออะไร ?
Stablecoin เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency โดย Stablecoin คือ สกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าคงที่และมีการผูกมูลค่าไว้กับกับสินทรัพย์อื่นครับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสกุลเงิน อย่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือ ยูโร เพราะจะทำให้มูลค่าของ Stablecoin คงที่เมื่อเวลาผ่านไป หรือเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น จะได้ไม่ผันผวนมากเกินไป เพราะอย่างน้อยการขึ้นหรือลงของราคาก็สัมพันธ์กับสกุลเงินที่ตรึงไว้ (อย่างที่เราเห็นว่าสกุลเงินต่าง ๆ รอบโลกจะไม่ผันผวนมาก ไม่เหมือนคริปโตที่เวลาจะร่วงก็จะร่วงหนัก เวลาขึ้นก็จะขึ้นหนักนั่นเอง)
แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
- Fiat backed stablecoin : เป็นเหรียญแบบที่ผูกกับเงินตราต่างประเทศแบบ 1:1
- Asset backed stablecoin : เป็นเหรียญแบบที่ผูกกับสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ทอง, เงิน, น้ำมัน และเพชร เป็นต้น
- Algorithmic stablecoin : เป็นเหรียญแบบที่ไม่ได้อิงมูลค่ากับสินทรัพย์ใดเป็นหลัก
เพราะว่า Stablecoin เป็นเหรียญที่มีเสถียรภาพและตรึงราคาไว้กับสินทรัพย์ต่าง ๆ จึงมักได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์เฉพาะที่พวกเขากำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น องค์กรที่ออก Stablecoin มักจะมีการสำรองเงินที่สถาบันการเงินที่ถือสินทรัพย์อ้างอิงที่เทียบราคาไว้ด้วย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Stablecoin สามารถสำรอง 100 ล้านดอลลาร์และถอนเงินออกได้ 100 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากเหรียญนั้นตรึงมูลค่าคงที่ 1 ดอลลาร์ต่อเหรียญ หากเจ้าของ Stablecoin ต้องการถอนเงินออกจากเหรียญ ก็สามารถถอนเงิน Stablecoin ออกมาเป็นมูลค่าตามเงินดอลลาร์ได้นั่นเองครับ
จุดนี้ของ Stablecoin จะตรงกันข้ามกับสกุลเงินดิจิตอลส่วนใหญ่เลยครับ เพราะอย่าง Bitcoin และ Ethereum ไม่ได้มีการตรึงราคาไว้กับสกุลเงินใดหรือสินทรัพย์ใด เลยทำให้เหรียญจำพวกที่ไม่ใช่ Stablecoin มีความผันผวนอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับคนที่ทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ต่างกับฝั่ง Stablecoin ที่มีความผันผวนต่ำครับ
ข้อดีของ Stablecoin
Stablecoin ถูกออกแบบมาให้ตรึงกับราคาสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง จึงไม่ได้มีความผันผวนมาก นักลงทุนจึงให้คำนิยาม Stablecoin ไว้ว่าเป็น “ที่พัก” ของพวกเขาครับ ทำไมถึงเรียกแบบนั้น ก็เพราะว่าด้วยความที่เหรียญส่วนใหญ่ในตลาด Cryptocurrency มีความผันผวนสูงมาก จนบางครั้งจากเราได้กำไรอยู่เกือบ 10,000 บาท พอราคาเหรียญดิ่งลงก็ทำให้เราได้กำไรอยู่เพียงหลักร้อยจนอาจจะติดลบได้ ดังนั้น การเปลี่ยนมาถือเหรียญจำพวก Stablecoin จึงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างมากสำหรับนักลงทุนหรือเทรดเดอร์โดยเฉพาะในตลาดคริปโตครับ
ลองนึกภาพเมื่อเราซื้อ Bitcoin เป็นจำนวน 1 เหรียญในตอนที่ราคา 30,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ แล้วมีสัญญาณว่าราคาจะดิ่งลงอีก หากเราปล่อยพอร์ททิ้งไว้แบบนั้นแล้วราคาเหรียญดิ่งลงมาเหลือเพียง 18,900 ดอลลาร์สหรัฐ แบบนี้แปลว่าเราขาดทุนไปกว่า 11,100 ดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ถ้าหากเราโยกเงินนั้นมาซื้อ Stablecoin ไว้เป็นจำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก็จะช่วยให้เราไม่ขาดทุนในช่วงเวลานั้นได้ และเมื่อราคา Bitcoin เริ่มดีดกลับมา เราค่อยกลับไปซื้อมาถือไว้ในราคาเท่าเดิมหรือไม่ต่างจากเดิมมากก็ได้ครับ
5 เหรียญ Stablecoins ที่ไม่ควรพลาดในปี 2022
Binance USD (BUSD)
BUSD เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ตรึงค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการร่วมมือระหว่าง Binance Exchange และ Paxos Trust Company ครับ BUSD ขึ้นชื่อว่าเป็นเหรียญ Stablecoin ที่เหมาะในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดได้อย่างดี
ข้อดีของ BUSD
- ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้
- ได้รับการอนุมัติและควบคุมโดยกระทรวงบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก
- มีการปกป้องลูกค้าหรือผู้ใช้งานในระดับที่รัดกุมสูงสุด
- ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ เมื่อสร้างหรือแลกรับ BUSD
ข้อเสียของ BUSD
- ค่อนข้างขาดความโปร่งใส ต้องมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
Tether (USDT)
Tether นับว่าเป็น Stablecoin รายใหญ่รายแรกที่ถูกยอมรับในการแลกเปลี่ยนและจากนักลงทุนเลยครับ แถมยังได้รับการสนับสนุนจากสินค้าโภคภัณฑ์อีกมากมาย จนปัจจุบัน Tether มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 68 พันล้านดอลลาร์
ข้อดีของ USDT
- มีความปลอดภัยสูงและโอกาสถูกแฮ็กต่ำมาก
- ผู้ใช้สามารถถอนและฝากเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้
- เป็นเหรียญที่ใช้เชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลและเงินจริง (Fiat Money)
ข้อเสียของ USDT
- Tether เคยถูกลงโทษฐานอ้างว่ามีเงิน 1.8 พันล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคารของ Deltec Bank & Trust Ltd. เพื่อเป็นการสำรองเงินสำหรับผู้ใช้งาน แต่ที่จริงแล้วไม่มี
Paxos Standard (PAX)
Paxos Standard เป็นหนึ่งใน Stablecoin ที่ค้ำประกันด้วยคำสั่ง Fiat ที่ดีที่สุดเมื่อต้องลบค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน มุ่งเน้นไปที่การสร้างอนาคตที่มีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล หลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ทุกที่ทุกเวลา
ข้อดีของ PAX
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม
- หนึ่งในเหรียญที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในตลาด
- ใช้ได้กับทุกการแลกเปลี่ยน
- เป็นเหรียญที่มีความผันผวนต่ำมาก
ข้อเสียของ PAX
- ต้องมีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม ซึ่งอาจจะยุ่งยากบ้างเล็กน้อย
USD Coin (USDC)
เหรียญ USD เป็นเหรียญ Stablecoin ใหม่ที่ควบคุมโดย USD และเป็นหนึ่งในเหรียญที่ดีที่สุดในช่วงนี้ครับ เพราะนอกจากจะเป็นเหรียญ stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Crypto ซึ่งค้ำประกันโดยสินทรัพย์ Crypto ในโลกแห่งความเป็นจริง ยังมีการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ บน Ethereum Blockchain ที่เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยสูงมากอีกด้วย
ข้อดีของ USDC
- ตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ 1:1
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสร้างหรือแลกเหรียญ
- มีเงินทุนและมีกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใสสูง
- มีความรวดเร็วและความน่าเชื่อถือสูง
ข้อเสียของ USDC
- จำเป็นต้องมีการตรวจสอบภายนอกหรือบุคคลที่ 3
DAI Coin (DAI)
Dai เป็นเหรียญ Stablecoin อีกหนึ่งเหรียญที่มูลค่าถูกผูกไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าจะมีความผันผวนต่ำ นอกจากนี้ผู้สร้างเหรียญนี้ยังใช้ Ether ของ Ethereum Blockchain เป็นหลักประกันใน Maker Vaults ทำให้ DAI สามารถผลิตและหมุนเวียนได้ โดยเหรียญนี้ทำงานเป็นหลักเหมือนเงินกู้
ข้อดีของ DAI
- ตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐ 1:1
- มีความผันผวนต่ำมาก
- เป็นหนึ่งในเหรียญที่มีสภาพคล่องสูง
- เป็น Stablecoin
ข้อเสียของ DAI
- ยังไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร
สรุป
Stablecoin นับว่าเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิทัลที่น่าสนใจและน่าลงทุนมากเลยทีเดียว เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากหลบหนีจากความผันผวนของตลาดซักพัก (โดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้นะครับ) Gotradehere หวังว่า บทความนี้จะทำให้คุณมีความเข้าใจใน Stablecoin ไม่มากก็น้อย และอย่าลืมติดติดตามสาระดี ๆ จากทีมงานโดนไล่มาเทรดด้วยนะครับ