Table of Contents
Table of Contents

เทรดหุ้น VS เทรด Forex เทรดแบบไหนเหมาะกับเทรดเดอร์มากกว่ากัน ? 

เทรดหุ้น VS เทรด Forex เทรดแบบไหนเหมาะกับเทรดเดอร์มากกว่ากัน ? 

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คงสงสัยว่าการเทรดหุ้นหรือการเทรด Forex มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ? หรือกำลังลังเลว่าควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหนดี วันนี้ทีมงาน Gotradehere จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ “การเทรดหุ้นและการเทรด Forex” แบบเจาะลึกและเปรียบเทียบข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด เพื่อให้เทรดเดอร์ศึกษาและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกการลงทุนของตนเองครับ

เทรดหุ้น คืออะไร ?

การเทรดหุ้น คือ การซื้อขายหุ้นของบริษัทที่มีการจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำกำไรจากราคาที่ผันผวน ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งการเทรดหุ้นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่เทรดเดอร์นิยมเป็นอย่างมากแต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์จะต้องเลือกรูปแบบหรือสินทรัพย์การลงทุนที่เหมาะกับตนเองเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนครับ

ข้อดี – ข้อเสียของการเทรดหุ้น

  • ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง
  • สภาพคล่องในการซื้อขายสูง
  • ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบอื่นเพิ่มเติม เช่น เงินปันผลหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากการถือหุ้น
  • ตัวเลือกในการเทรดหุ้นหลากหลาย
  • เปิดบัญชีง่าย มีแอพพลิเคชันรองรับการเทรดที่ตอบโจทย์และทันสมัยสำหรับนักลงทุน
  • มีตลาดหลักทรัพย์เข้ามากำกับดูแลทำให้ตลาดหุ้นมีความน่าเชื่อถือ
  • แม้ผลตอบแทนจะสูงแต่ความเสี่ยงในการลงทุนก็สูงเช่นกัน
  • ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง
  • หุ้นบางตัวหรือหุ้นในกลุ่มบริษัทเล็ก ๆ มีสภาพคล่องในการซื้อขายน้อยมาก
  • การเทรดหุ้นจะต้องเสียภาษีที่เรียกว่า “ภาษีขายหุ้น”
  • ต้นทุนในการลงทุนสูงเนื่องจากมีขั้นต่ำในการซื้อหุ้นอยู่ที่ 100 หุ้น/ ครั้ง
  • มีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อราคาหุ้น เช่น ภาพรวมเศรษฐกิจ, รายได้บริษัท หรือผลประกอบการของบริษัท เป็นต้น
  • ใช้เวลาในการทำธุรกรรมการซื้อ-ขายที่นานกว่า (T+2)

เทรด Forex คืออะไร ? 

การเทรด Forex หมายถึง การซื้อ-ขายคู่สกุลเงินระหว่างประเทศ (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง ; CFD) โดยอาศัยการเก็งกำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงิน ซึ่งสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ทำให้จุดนี้เป็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนที่สุดระหว่างการเทรดหุ้นและการเทรด Forex นอกจากนี้ตลาด Forex ถือว่ามีสภาพคล่องในการซื้อขายที่สูงเนื่องจากตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง/ วัน ครับ 

ข้อดี – ข้อเสียของการเทรด Forex

  • สภาพคล่องในการซื้อขายสูง เนื่องจากตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง/วัน และเปิด 5 วัน/ สัปดาห์ โดยคู่สกุลเงินหลักที่นิยมเทรดคือ USD ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • ใช้ต้นทุนน้อยในการลงทุน มี Leverage เข้ามาช่วยในการลงทุน 
  • ผลตอบแทนสูง สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
  • มีเงินโบนัสหรือโปรโมชั่นพิเศษจากบางโบรกเกอร์
  • การดำเนินธุรกรรมการซื้อ-ขายรวดเร็ว
  • ตลาด Forex มีความผันผวนของราคาที่สูงมาก มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน
  • แม้ว่าจะสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงแต่ความเสี่ยงในการลงทุนก็สูงมากเช่นกัน
  • Leverage อาจทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนมากกว่าได้กำไร
  • มีค่าธรรมเนียมยิบย่อยจำนวนมาก เช่น ค่า Commission, ค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน หรือค่า Swap เป็นต้น
  • ในบางประเทศยังไม่มีกฎหมายรองรับการเทรด Forex
  • รายได้จากการเทรด Forex จำเป็นจะต้องเสียภาษี หมวดเงินได้ประเภทที่ 4
  • ไม่มีหน่วยงานกลางในการกำกับดูแลตลาด เนื่องจาก Forex เป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ (OTC)

เทรดหุ้น VS เทรด Forex เปรียบเทียบข้อแตกต่างที่ชัดเจน เทรดแบบไหนเหมาะกับเทรดเดอร์มากกว่ากัน ?

เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างเทรดหุ้นและเทรด Forex

ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Gotradehere ได้สรุปประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการเทรดหุ้นและการเทรด Forex โดยจำแนกเป็นหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ครับ

เทรดหุ้นเทรด Forex
ตลาดหลักทรัพย์มีเวลาทำการที่ชัดเจน โดยทั่วไปจะเปิดช่วงเช้าและปิดในช่วงเย็น มีเวลาพักกลางวัน 1 ชั่วโมง เปิด 5 วัน/ สัปดาห์ และหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์
**ทำให้เวลาในการเปิด-ปิดในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน** 
ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วัน/ สัปดาห์ และจะหยุดสุดสัปดาห์ตามวันที่ธนาคารปิดทำการและหยุดในวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยเช่นกัน
**อย่างไรก็ตามเวลาเปิด-ปิดจะขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์ที่เลือกใช้ด้วยเช่นกัน**  

ซึ่งข้อดีของเวลาซื้อ-ขายในตลาดหุ้น คือ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นและรอช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อขายหุ้นให้ได้กำไรมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวนระหว่างวันได้ดียิ่งขึ้น แต่เทรดเดอร์อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรจากราคาหุ้นที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดที่ตลาดปิดครับ 

ส่วนข้อดีของเวลาซื้อ-ขายในตลาด Forex คือ เทรดเดอร์สามารถซื้อ-ขายได้ตลอดเวลาซึ่งเหมาะกับการเทรด Forex ที่มีความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสูง ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ง่ายขึ้นและเหมาะกับการใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น แต่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจาก Swap กรณีที่ถือ Order ข้ามคืนครับ

การเทรดหุ้นและการเทรด Forex ถือว่ามีสภาพคล่องในการซื้อขายที่สูงเหมือนกัน แต่ปริมาณในการซื้อขายของตลาด Forex จะมากกว่าตลาดหุ้น เนื่องจากตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง/ วัน ส่งผลให้สภาพคล่องในการซื้อขายสูงกว่าตลาดหุ้นครับ

นอกจากนี้สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นบางตัวจะน้อยกว่าหุ้นเด่นตัวอื่น ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากหุ้นตัวนั้นอาจมาจากบริษัทขนาดเล็กหรือบริษัทที่ผลประกอบการไม่ได้ดีมาก ทำให้ความต้องการน้อย ส่งผลให้สภาพคล่องของหุ้นประเภทนี้น้อยลงไปด้วยเช่นกันครับ

ข้อแตกต่างเทรดหุ้นเทรด Forex
ต้นทุนที่ใช้ต้นทุนขึ้นอยู่กับหุ้นที่ซื้อขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินที่ต้องการเทรด
ขั้นต่ำในการซื้อ/ฝาก100 หุ้น/ ครั้งขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ
จำนวนต้นทุนที่ใช้ในการลงทุนสูง เนื่องจากมีขั้นต่ำในการซื้อน้อย – ปานกลาง เนื่องจากมีตัวช่วยในการลงทุนอื่น ๆ เช่น Leverage

ในการเทรดหุ้นถือว่าใช้ต้นทุนที่สูงกว่าการเทรด Forex เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องขั้นต่ำในการซื้อแต่ละครั้ง และราคาหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงย่อมมีราคาต่อหุ้นสูงเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่การเทรดหุ้นใช้ต้นทุนในการลงทุนที่สูง กลับกันการเทรด Forex ใช้ต้นทุนในการลงทุนน้อย – ปานกลางขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ต้องการเทรด แต่การเทรด Forex จะมี Leverage และโปรโมชั่นการฝากเงินหรือโบนัสการฝากเงินจากบางโบรกเกอร์ช่วยซัพพอร์ตต้นทุนของเทรดเดอร์ครับ

เทรดหุ้น เทรด Forex 
ส่วนต่างราคาหุ้นส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงิน
เงินปันผล และสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากการถือหุ้นสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง

การเทรดหุ้นได้รับผลตอบแทนเป็นกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลง ณ ช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับเมื่อถือครบในแต่ละงวดการจ่ายเงินปันผลและผลตอบแทนในรูปแบบของสิทธิพิเศษจากการถือหุ้นบริษัท เช่น สิทธิการเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น ร่วมแสดงความคิดเห็น การลงมติในเรื่องต่าง ๆ หรือสิทธิพิเศษในการซื้อหุ้นออกใหม่ของบริษัทก่อนบุคคลอื่น

ในส่วนของการเทรด Forex ผลตอบแทนจะอยู่ในรูปแบบกำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินเพียงรูปแบบเดียว แต่จะมีข้อแตกต่างจากการเทรดหุ้นคือการเทรด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง เนื่องจากการเทรด Forex เป็นการซื้อ-ขายรูปแบบตราสารอนุพันธ์หรือ CFD และมี Leverage เข้ามาช่วยในการทำกำไรจากการเทรดครับ

เทรดหุ้นเทรด Forex
ความเสี่ยงจากบริษัทความเสี่ยงจากโบรกเกอร์
ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆ

ความเสี่ยงจากการเทรดหุ้นที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะต้องพึงระวังไว้เสมอ คือ ความเสี่ยงจากปัจจัยภายในอย่างตัวบริษัทที่ออกหุ้นเอง เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นอยู่กับ “ผลประกอบการของบริษัท” ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้หากบริษัทประสบปัญหาหนี้สินหรือล้มละลายนักลงทุนเองอาจขาดทุนจากหุ้นที่กำลังถือได้เช่นกันครับ

และความเสี่ยงจากการเทรด Forex ที่เทรดเดอร์จะต้องพึงระวังไว้เสมอนั้น คือ ความเสี่ยงจากการเลือกโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ เนื่องจากมีโบรกเกอร์ Forex ที่ให้บริการอย่างไม่เป็นธรรมหรือเอาเปรียบกับเทรดเดอร์ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเทรดเดอร์ในด้านของผลตอบแทนและการลงทุนอย่างแน่นอน หากเทรดเดอร์สามารถเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และมีชื่อเสียงในทางที่ดีย่อมเป็นผลดีกับตัวเทรดเดอร์เองเช่นกันครับ นอกจากนี้ Leverage ที่โบรกเกอร์ให้กับเทรดเดอร์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้เทรดเดอร์ทำกำไรได้มากขึ้นแต่ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้มากขึ้นเช่นกันครับ

🔎 รวมบทความเกี่ยวกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ
แนะนำ 5 โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ 2024
5 โบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำ ค่าธรรมเนียมถูกที่สุด ปี 2024
7 โบรกเกอร์ Forex โบนัสเทรดฟรี ถอนได้ ไม่ต้องฝาก ล่าสุดปี 2024 
แนะนำ! 5 โบรกเกอร์ Copy Trade เจ้าไหนดีที่สุด ปี 2024
5 โบรกเกอร์ Forex ไม่มีค่า Swap เอาใจสายเทรดยาวปี 2024

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่เทรดเดอร์ควรพึงระวังดังนี้ครับ

  • สภาพเศรษฐกิจ 
  • อัตราดอกเบี้ย
  • นโยบายทางการเงิน
  • เหตุการณ์ทางการเมือง 

ซึ่งเทรดเดอร์สามารถติดตามข่าวสารเหล่านี้ได้หลากหลายช่องทางบนอินเทอร์เน็ต เช่น Forex Factory หรือเว็บไซต์ข่าวสารทางการเงิน เป็นต้นครับ

การเทรดหุ้นจะมีค่าธรรมที่เรียกว่าอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นอัตราการคิดค่าธรรมเนียมแบบขั้นบันไดกรณีส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่และการซื้อขายด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังคิดจากประเภทบัญชีที่ทำการซื้อขายด้วย โดยมีอัตราค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์หรือบลจ. โดยส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท ครับ

เช่นเดียวกันกับการเทรด Forex ที่มีค่าธรรมเนียมเหมือนกัน แต่มีจุดแตกต่างที่ชัดเจน คือ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่จุกจิกและมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (Commission), ค่า Spread หรือค่า Swap เป็นต้น ซึ่งเทรดเดอร์จำเป็นจะต้องเลือกโบรกเกอร์ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมน้อยหรือไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อป้องกันการจ่ายต้นทุนการเทรดที่สิ้นเปลืองและเพิ่มกำไรจากการเทรดที่มากขึ้นเมื่อหักจากค่าธรรมเนียมครับ

สำหรับตอนนี้เทรดเดอร์หลายคนอาจกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต และมีโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษรองรับการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ทีมงาน Gotradehere ขอแนะนำอีก 1 โบรกเกอร์ที่ไม่ควรพลาดครับ 

IUX icon OP1 04
เทรดหุ้น VS เทรด Forex เทรดแบบไหนเหมาะกับเทรดเดอร์มากกว่ากัน ?  3

IUX โบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ, ส่งคำสั่งซื้อขายเร็ว, Free Swap, มีทั้งโบนัสและโปรโมชั่นสำหรับเทรดเดอร์ รวมทั้งมีการควบคุมดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ทั้งการเทรดหุ้นและเทรด Forex 

ซึ่งวันนี้ทีมงาน Gotradehere ได้สรุปข้อมูลเบื้องต้นของโบรกเกอร์ IUX ให้เทรดเดอร์ใช้ประกอบการตัดสินใจครับ 

บัญชีStandardStandard+RawPro
ค่าสเปรด (Spread) 0.2 pips0.5 pips0 pips0.1 pips
ค่า Commission $3 per lot
Laverage1:30001:10001:30001:3000
Free Swap
ฝากขั้นต่ำ$10$10$500$500
Bonus อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโบนัสเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ IUX

สำหรับคำถามที่ว่าเทรดหุ้นหรือเทรด Forex เลือกเทรดแบบไหนดีกว่ากันนั้น ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนหรือตัวเลขทางสถิติที่บ่งบอกว่า “เทรดสินทรัพย์นี้ดีที่สุด” แต่ต้องเป็นตัวเทรดเดอร์เองที่เลือกและตัดสินใจสินทรัพย์การลงทุนที่เหมาะกับตัวเองหรือสไตล์การลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะกับตัวเทรดเดอร์ครับ

⛔️ แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาข้อมูลและปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญและควรทำทุกครั้งเนื่องจากทุกการลงทุนมีความเสี่ยง การลดความเสี่ยงจากการลงทุนย่อมเป็นผลดีกับตัวเทรดเดอร์เอง ดังนั้นแล้วควรศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ละเอียดครบถ้วนทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุนครับ


เทรดหุ้นเริ่มต้นยังไง ?

  • กำหนดเป้าหมายการลงทุน อยากได้อะไรจากการลงทุน
  • เปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้น
  • วิเคราะห์หุ้นก่อนซื้อทุกครั้ง
  • วิเคราะห์กราฟเพื่อหาโอกาสในการทำกำไร
  • อย่าลืมบริหารจัดการเงินให้ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • หาเวลาศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อหาโอกาสในการทำกำไร

เทรด Forex เสียภาษีไหม

การเทรด Forex จำเป็นจะต้องเสียภาษีในหมวดเงินได้ประเภทที่ 4 ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไร เงินลงทุน โดยตรวจสอบอัตราภาษีได้ที่กรมสรรพากร 

มีเงินแค่ 1,000 บาท ซื้อหุ้นได้ไหม

สามารถซื้อหุ้นได้เนื่องจากราคาตลาดหุ้นในปัจจุบันมีหุ้นที่ราคาไม่สูงอยู่ ซึ่งนักลงทุนจะต้องศึกษาปัจจัยโดยรวมของหุ้นเพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าของหุ้นที่จะซื้อก่อนเสมอ โดยมีขั้นต่ำในการซื้ออยู่ที่ 1 Board Lot หรือเท่ากับ 100 หุ้น 


ทั้งการเทรดหุ้นและการเทรด Forex ล้วนแต่เป็นการลงทุนที่เทรดเดอร์ให้ความนิยมและความสนใจ ซึ่งการเลือกรูปแบบการเทรดที่เหมาะกับตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นการศึกษาข้อแตกต่างระหว่างสินทรัพย์และการเทรดที่สนใจจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนให้ได้มากที่สุดครับ

สุดท้ายนี้เมื่อตัวเทรดเดอร์ตัดสินใจลงทุนแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะศึกษากลยุทธ์การลงทุนหรือปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนให้มีโอกาสในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้นครับ


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX Markets
IUX Markets
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –