นับเป็นสงครามครั้งที่ใหญ่ที่สุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในรอบหลายปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นวงกว้างขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทั่วทั้งโลกซ้ำรอยกับเหตุการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียเมื่อ 2 ปีก่อน
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ด้านผู้เชี่ยวชาญของตลาดการเงินและตลาดทุน กำลังจับตาและติดตามสถานการณ์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการลุกลามไปในระดับภูมิภาค อาจกดดันให้สินทรัพย์เสี่ยงเกิดความผันผวนหนัก และราคาน้ำมันตลาดโลกเสี่ยงปรับเพิ่มขึ้น เพราะประเทศตะวันออกกลางเป็นแหล่ง Supply น้ำมันดิบเกือบ 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งมีโอกาสทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ พร้อมทั้งเตือนให้นักลงทุนเตรียมรับมือตลาดเงินผันผวน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า ตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบระยะสั้น
อย่างไรก็ดี อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และยังขึ้นอยู่กับว่า ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน ความรุนแรงของเหตุการณ์จะมากเพียงใด และจะขยายไปยังส่วนอื่นๆ ของภูมิภาคหรือไม่ ซึ่ง Agustin Carstens ผู้นำของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า ‘ขณะนี้ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น แม้ตลาดน้ำมันและตลาดหุ้นอาจจะได้รับผลกระทบไปแล้วในทันที’
ผลกระทบต่อธนาคารกลางทั่วโลก
เหตุการณ์ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารกลางทั่วโลก เพราะสงครามครั้งนี้อาจสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อรอบใหม่ เพราะภูมิภาคตะวันออกกลางไม่เพียงแค่เป็นที่ตั้งของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทั้งอิหร่านและซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของเส้นทางเดินเรือหลัก ๆ ผ่านคลองสุเอซ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของ FED อ้างถึงราคาพลังงานที่สูงขค้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าคือ ‘ความเสี่ยง’ ที่เกิดขึ้นต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้งยังกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ ถ้าไม่มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบเข้ามาจากภายนอก
นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ดันราคาทองพุ่งขึ้น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด และได้ขู่ว่า จะทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันพุ่งมากกว่า 3% เพราะนักลงทุนมีความกังวลว่า หากการโจมตีของกลุ่มฮามาสลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง อาจส่งผลกระทบต่อทั้งการผลิตและขนส่งน้ำมันดิบทางทะเล ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหันกลับไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ และส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +0.9%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ตลาดการเงินยังคงอยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญกับความผันผวนสูง จากทั้งสงครามที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงินต่าง ๆ ดังนั้น นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนให้ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวน และ Gotradehere ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
Source: THE STANDARD และ efinancethai
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News