Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ทำการส่งจดหมายเตือนถึงสภาคองเกรสเป็นฉบับที่ 3 เมื่อวานนี้ (วันที่ 22 พฤษภาคม) โดยในจดหมายระบุว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ที่กระทรวงการคลังจะไม่สามารถชำระหนี้ของรัฐบาลได้ ถ้าหากไม่ได้มีการขยายเพดานหนี้สหรัฐมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โดยทาง Janet Yellen ระบุว่า “ด้วยข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวดิฉันได้เขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อให้ท่านได้รับทราบว่า เราได้มีการประเมินแล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กระทรวงการคลังจะไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดของรัฐบาลได้ภายในต้นเดือนมิถุนายน และอาจเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ หากสภาคองเกรสไม่ดำเนินการเพิ่มเพดานหนี้”
ทั้งยังเสริมว่า “การประมาณการดังกล่าวสอดคล้องกับที่ให้ไว้ในจดหมายฉบับก่อนที่ Yellen ส่งถึงสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น อิงตามข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ตัวเลขรายรับ, ค่าใช้จ่าย และหนี้ของรัฐบาลกลางก็มีโอกาสที่จะแตกต่างไปจากนี้ และจะทำการแจ้งให้สภาคองเกรสทราบเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม”
อย่างไรก็ตาม การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden ที่เป็นผู้นำสหรัฐฯ และ Kevin McCarthy ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (วันที่ 23 พฤษภาคม) ตามเวลาไทย โดย McCarthy กล่าวว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แต่ว่าทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ Yellen ได้ออกมาย้ำเตือนหลายครั้งว่า หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ จะทำให้เกิด “หายนะทางเศรษฐกิจและการเงิน” ต่อทั้งสหรัฐฯ และทั่วโลก อีกทั้ง ต้นทุนการกู้ยืมของกระทรวงการคลังได้เพิ่มขึ้นแล้ว และ Yellen ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการโดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้
Source: Infoquest