การเป็นเทรดเดอร์สามารถเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทำให้นักเทรดบางคนลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเทรด forex full-time หรือ เต็มเวลาแบบเต็มตัว แต่ก็มีนักเทรดจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่สามารถทำอาชีพหรือเทรดforex full-time ได้ พวกเขาจึงมองหาช่วงเวลา part-time หรือเวลาว่าง เพื่อเปิดและปิด position เทรดต่างๆ ในช่วงเวลาเช้า พักกลางวัน หรือ ก่อนนอน
แต่การเทรดโดยอาศัยช่วงเวลาว่างนั้นอาจทำให้ท่านเสียโอกาสดีๆ ในการซื้อหรือขายทำกำไร โดยไม่รู้ตัว! ดังนั้น เราจะมาช่วยแนะนำกลยุทธ์การเทรด part time ให้กับทุกคนเวลาน้อยเพื่อช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดจากการเทรด และคว้าจังหวะการเทรดดีๆ เอาไว้ให้อยู่มือ!
กลยุทธ์เทรดระยะสั้น (Short Term Strategy)
ถึงแม้กลยุทธ์เทรดระยะสั้น (Short Term Strategy) จะมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย แต่ต้องยอมรับเลยว่ากำไรที่ได้มานั้นคุ้มค่าจริงๆ ซึ่งเป็นการอาศัยการเทรดแบบสั้นๆ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ขั้นตอนแรก คือการจับจังหวะแนวโน้มระยะสั้น (Short term trend) ที่เหมาะสมให้ได้และที่สำคัญคืออย่าลืมหาวิธีบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันการเทรดที่ขาดทุนด้วย
หลักการเบื้องต้น
- เฝ้าติดตาม Moving Average – ซึ่งจะต้องจับตาดูราคาหุ้น หรือ ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาให้ดี โดยอาศัยกรอบเวลา หรือ Timeframe ทั่วไป ตั้งแต่ 15 วัน ไปจนถึง 200 วัน จะทำให้เราเห็นภาพรวมของตลาดว่าจังหวะไหนที่มีเทรนด์ขาขึ้น และจังหวะไหนที่เป็นช่วงขาลง
- เทรดตามวัฏจักร (Cycle trading) – หรือการเทรดตามรอบ นับเป็นไอเดียกลยุทธ์เทรดระยะสั้นที่ดีเลยทีเดียว ที่จะช่วยระบุจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด หรือการออกออเดอร์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
- อาศัยเทรนด์ – “การเข้าใจเทรนด์ของตลาด” จะช่วยทำกำไรได้ แม้ว่าตลาดจะเปลี่ยนไปในทิศทางตรงกันข้ามหลักการนี้จะใช้แนวโน้ม หรือ เทรนด์ที่ทั้งบวกและลบ ประกอบการตัดสินใจว่าควรจะซื้อหรือขายสินทรัพย์ที่มี
ข้อดี
- หลักการที่ดีที่สุดในการเทรดหน้าชอร์ต (Short selling)
- เหมาะสำหรับการเทรดในตลาดขาลง
- เทรดได้ยืดหยุ่น ในแง่ของ timeframe
ข้อเสีย
- เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูง
- ต้องอาศัยการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก
- ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
กลยุทธ์เทรดระยะกลาง (Medium Term Strategy)
กลยุทธ์นี้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือ position หนึ่งๆ เป็นเวลาตั้งแต่หลายวัน ไปจนถึง หลายสัปดาห์ แตกต่างกันไปตามความเคลื่อนไหวของเทรนด์ ทำให้หลักการนี้จะต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่มากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับกลยุทธ์เทรดระยะสั้นนั่นเอง เพราะยังต้องให้ความสำคัญกับทิศทางของเทรนด์ในอดีตเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันแล้วหาจังหวะออกออเดอร์ที่ดีที่สุด
หลักการเบื้องต้น
- อาศัยกราฟราคาในอดีต ที่ช่วยให้เห็นภาพความเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมา เพื่อสร้างแผนการเทรดที่จะทำให้ท่านเทรดได้ประสบผลสำเร็จในระยะยาว
- วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ต่างๆ ที่อาจมีผลต่อราคาสินทรัพย์ในอนาคต หลักการสำคัญ คือ การคาดการณ์และตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต เพื่อจับจังหวะความเป็นไปได้
- รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่เข้าด้วยกัน
ข้อดี
- เสี่ยงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลยุทธ์ระยะสั้น
- เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
- สามารถคาดการณ์อนาคตได้ง่าย
ข้อเสีย
- ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์เชิงลึกที่หลากหลาย
- ต้องพิจารณาข้อมูลและปัจจัยต่างๆ จำนวนมาก
- อาศัยการวิเคราะห์กราฟเทคนิค หรือ ปัจจัยทางเทคนิค ที่ค่อนข้างซับซ้อน
กลยุทธ์เทรดระยะยาว (Long Term Strategy)
ตามชื่อกลยุทธ์นี้อาศัยการถือ position เป็นระยะเวลานานๆ ตั้งแต่หลายเดือน ไปจนถึง หลายปี ในขณะที่สินทรัพย์นั้นเกิดความเปลี่ยนแปลงน้อยมาก หรือราคาแทบไม่ขยับไปไหนเลย
หลักการเบื้องต้น
- เลเวอเรจแบบต่ำ
แม้กลยุทธ์ระยะยาวจะต้องอาศัยการถือ position นานๆ แต่เทรดเดอร์จะต้องใช้เลเวอเรจที่น้อยมากๆ
- ควบคุม Stop Loss
สมมุติว่าการเทรดคู่เงิน คู่เงินเหล่านั้นอาจจะขยับไปเป็น 100 pip ในทุกๆ ชั่วโมง คุณจะต้องมั่นใจว่า position ที่ถือไว้นั้นจะไม่โดน stop loss ไปเสียก่อน
- ค่าสวอป (Swap)
ต้องพิจารณาค่าสวอป หากคุณตัดสินใจที่จะเทรดระยะยาว โดยคุณจะต้องประเมินค่าใช้จ่ายจากสวอปลบที่อาจเกิดขึ้นได้
- เทรดด้วยเงินทุนมหาศาล
หากต้องการเทรดให้ได้กำไรมากๆ ก็ต้องทุ่มเงินลงทุนเทรดมากเช่นกัน โดยคุณจะต้องการคำนวณ อัตราผลตอบแทน เป็นตัวช่วย
ข้อดี
- กำไรที่มากขึ้น
- เทรนด์มีความแข็งแกร่ง
ข้อเสีย
- อาจต้องเผชิญกับการปิด position ก่อนเวลาอันควร
- ความเป็นไปไดที่จะเปลี่ยนการเทรดที่แพ้ให้กลับมาชนะยาก
- ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเทรดและการบริหารเงินทุน
- อาจจะมีต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก
บทสรุปนี้การเลือกกลยุทธ์เทรดที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่ท่านควรทำก่อนก้าวเข้าสู่ตลาด และจะต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่าหลักการใดที่เหมาะสมกับท่าน โดยอย่าลืมเพิ่มพูนความรู้, ทักษะ, และเทคนิคการเทรดของท่าน ก่อนที่ท่านจะเริ่มเทรดแบบ part time ทบทวนเกี่ยวกับกลยุทธ์เทรดในระยะต่างๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับได้ในที่สุด
และหากจะพูดกระแสการลงทุนในยุคนี้ ถือว่ามาแรงมากๆ และหากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น