ประกันสุขภาพ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในยุคสมัยนี้ เพราะการรักษาสุขภาพกลายเป็นกุญแจสำคัญในการมีชีวิตที่เราไม่ควรละเลย เนื่องจากชีวิตเรานั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และที่สำคัญที่สุด คือ อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ ซึ่งจะดีกว่าไหม? หากเราสามารถรับมือกับปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาในอนาคต เพื่อให้บั้นปลายชีวิตของเรามีการวางแผนอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น การทำประกันสุขภาพจึงเป็นแผนสำรองที่มีไว้ก็อุ่นใจ
นอกจากนี้ ประกันสุขภาพไม่เพียงแต่เป็นการรับประกันในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนทางการแพทย์และสามารถดูแลสุขภาพของเราในระยะยาว อีกทั้งประกันสุขภาพยังใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ซึ่งการลดหย่อนภาษีก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันว่า สามารถลดหย่อนภาษีได้มากน้อยแค่ไหน? ดังนั้น ในวันนี้ทีมงาน Gotradehere จะมาแนะนำ 5 ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี? ประจำปี 2024 เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ สำหรับใครที่กำลังหาประกันดี ๆ ให้แก่ตนเองนั่นเองครับ จะมีประกันตัวไหนที่น่าสนใจ? ไปหาคำตอบกัน!
ประกันสุขภาพ คืออะไร ?
ประกันสุขภาพ คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองสำหรับสุขภาพของบุคคล โดยจะครอบคลุมอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยไปจนถึงการเจ็บป่วยหนัก ซึ่งประกันสุขภาพจะคุ้มครองตามที่ผู้เอาประกันทำกรมธรรม์ไว้ แต่ละกรมธรรม์ก็จะแบ่งการคุ้มครองแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทและเงื่อนไขที่ระบุไว้ เช่น บางกรมธรรม์ครอบคลุมเฉพาะโรคหรือบางกรมธรรม์ครอบคลุมมากกว่า 1 โรค เป็นต้น
ประเภทของประกันสุขภาพ มีกี่ประเภท ?
โดยปกติแล้ว ประกันสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ 1. การประกันสุขภาพกลุ่ม และ 2. การประกันส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การประกันสุขภาพกลุ่ม (Group Health Insurance)
การประกันสุขภาพกลุ่ม คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองบุคคลจำนวนมากภายใต้กรมธรรม์ฉบับเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว องค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ นิยมทำให้พนักงาน เพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล โดยการคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับบริษัทนั้น ๆ
การประกันสุขภาพตนเอง (Individual Health Insurance)
การประกันสุขภาพตนเอง คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะรายบุคคล โดยผู้เอาประกันสามารถเลือกได้ตามความต้องการให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเอง ซึ่งค่าเบี้ยประกันจะถูกคำนวณตามอายุและเพศของผู้เอาประกันนั้น ๆ
การทำประกันสุขภาพสำคัญอย่างไร ?
หลายคนอาจเกิดคำถามว่า ถ้าไม่เจ็บป่วย ประกันที่ทำไปจะจำเป็นหรือไม่? คำตอบ คือ การทำประกันสุขภาพนั้นมีความจำเป็น โดยเฉพาะกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด, สิ่งแวดล้อมที่แย่ลง, พฤติกรรมการกินที่หากไม่ระมัดระวังก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้ หรือแม้แต่การเจ็บป่วยกะทันหันที่อาจนำไปสู่ค่ารักษาจำนวนมาก
ดังนั้นแล้ว การทำประกันถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นตัวช่วยที่รองรับความเสี่ยงที่เกิดจากโรคที่ไม่คาดคิดได้ ทว่าในปัจจุบันการทำประกันไม่ได้ทำยากและไม่ได้ใช้เงินมากจนเกินไป เนื่องจากประกันสุขภาพมีการออกแพ็กเกจที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของใครหลาย ๆ คน อีกทั้งประกันสุขภาพยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การเลือกทำประกันสุขภาพให้กับตัวเองก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีในการวางแผนชีวิตของคุณครับ
ประกันสุขภาพแตกต่างจากประกันชีวิตอย่างไร ?
ประกันสุขภาพแตกต่างจากประกันชีวิตในเรื่องของความคุ้มครอง โดยประกันสุขภาพจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามประเภทความคุ้มครอง เช่น การเจ็บป่วย, การคุ้มครองโรคร้ายแรง, การคุ้มครองอุบัติเหตุ หรือการชดเชยรายได้ เป็นต้น ซึ่งจะชดเชยมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเบี้ยประกันและเงื่อนไขที่ผู้เอาประกันทำไว้ในกรมธรรม์
ในขณะที่ประกันชีวิตจะไม่คุ้มครองเมื่อเราเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล แต่จะคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต, ทุพพลภาพถาวร หรือชราภาพ ภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ โดยบริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในสัญญานั่นเอง
Tip! 5 ขั้นตอนควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ
หลังจากที่รู้กันแล้วว่า ประกันสุขภาพมีความสำคัญอย่างไร ขั้นตอนสำคัญต่อมาที่เราควรให้ความสนใจเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ การเลือกประกันสุขภาพอย่างไรให้เหมาะกับการวางแผนการใช้ชีวิตของคุณครับ เพราะปัจจุบันประกันสุขภาพมีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งจะดีกว่าไหม? หากคุณเลือกซื้อเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุด โดยทีมงาน Gotradehere ได้ทำ Tip! 5 ขั้นตอนควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. ประเมินความเสี่ยงในการใช้ชีวิตของคุณ
การประเมินความเสี่ยงในการใช้ชีวิตของคุณถือเป็นสิ่งที่ควรคำนึงเป็นอันดับแรก เพราะปัจจัยสิ่งแวดล้อมรอบตัวล้วนมีผลต่อสุขภาพของเราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน, สิ่งแวดล้อมที่คุณต้องเผชิญ, อุบัติเหตุ หรือแม้แต่โรคทางกรรมพันธุ์ ซึ่งคุณควรประเมินความเสี่ยงตั้งแต่อดีตไปจนถึงอนาคต เพื่อคำนึงว่า หากวันหนึ่งคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา คุณต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลในจำนวนเท่าไหร่? จึงจะเหมาะสม
2. ประเมินสวัสดิการที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน
ขั้นตอนต่อมาคือ คุณต้องประเมินว่า สวัสดิการที่คุณถือครองอยู่นั้น ครอบคลุมการใช้ชีวิตของคุณแล้วหรือยัง? เพื่อคำนึงว่าควรเลือกซื้อประกันสุขภาพประเภทไหนมาเป็นส่วนเสริมดี เช่น หากต้องการรักษาที่โรงพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ การซื้อประกันสุขภาพก็เป็นส่วนเสริมที่จะช่วยคุณได้นั่นเอง
3. เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสม
ขั้นตอนต่อมาคือ การเลือกความคุ้มครองให้เหมาะสม เพราะการคุ้มครองที่สูงก็มาพร้อมกับการจ่ายเบี้ยประกันที่สูงเช่นเดียวกัน โดยความคุ้มครองสามารถแบ่งออกเป็นค่ารักษาผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยนอก, อุบัติเหตุหรือฉุกเฉิน, โรคร้ายแรง และการสูญเสียรายได้ ดังนั้นแล้ว คุณควรคำนวณรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อประมาณการค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับการโอนความเสี่ยง ซึ่งควรพิจารณา 4 เรื่อง ดังต่อไปนี้
- ความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกัน
- งบประมาณหรือค่าเบี้ยประกัน
- รายละเอียดความคุ้มครอง
- วงเงินการคุ้มครองประกันสุขภาพและค่าทดแทน
4. ศึกษาเงื่อนไขการรับประกัน
ขั้นตอนต่อมาคือ การศึกษาเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียดและรอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ เพราะรายละเอียดการรับประกันและการเรียกร้องสินไหมของแต่ละบริษัทแตกต่างกัน โดยมี 5 เรื่องที่คุณควรศึกษาให้ละเอียด ได้แก่
- ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ เช่น การไม่คุ้มครองในโรค ไม่ว่าจะเป็น โรคนอนกรน, ท้องผูก หรือจิตเวช เป็นต้น
- วิธีการเรียกร้องสินไหมทดแทน โดยบริษัทประกันจะมีช่องทางการรับประกันภัยที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้เอาประกัน
- ระยะเวลารอคอย คือ ระยะเวลาที่ประกันภัยยังไม่คุ้มครองจนกว่ากรมธรรม์จะอนุมัติ
- การเพิ่มลดของค่าเบี้ยประกันปีต่ออายุ แต่ละบริษัทจะมีการปฏิบัติและเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกัน โดยจะขึ้นอยู่กับภายใต้กรมธรรม์ ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคปภ. ก่อนเสมอ
- การปฏิเสธรับประกันในปีต่ออายุ ในกรณีที่บริษัทเห็นว่า มีการเคลมสินไหมทดแทนที่มากเกินไปจนผิดสังเกต บริษัทจะพิจารณาไม่รับประกันในปีต่ออายุ ซึ่งจะมีการแจ้งลูกค้าถึงสาเหตุ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถชี้แจงและขอให้บริษัททบทวนใหม่ได้
5. ศึกษาการเรียกร้องสินไหมทดแทน
ขั้นตอนสุดท้ายคือ การศึกษาการเรียกร้องสินไหมทดแทน โดยปกติแล้วผู้เอาประกันจะมีบัตรสมาชิกหรือโปรแกรมในมือถือที่สามารถติดตามและแสดงผลกับโรงพยาบาลในเครือได้ เพื่อใช้ในการเรียกร้องสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันหรือนำใบรับรองแพทย์เข้าบริษัทประกัน เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ มีอะไรบ้าง ?
ประกันสุขภาพที่สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. ประกันสุขภาพของตนเอง และ 2. ประกันสุขภาพของพ่อแม่ โดยมีรายละเอียดตามตาราง ดังต่อไปนี้
ประกันสุขภาพตนเอง | ประกันพ่อแม่ | |
---|---|---|
ประเภทประกัน | – ประกันภัยร้ายแรง (Critical Illness) – ประกันภัยระยะยาว (Long Term Care) – ประกันภัยอุบัติเหตุ (การทุพพลภาพ, การสูญเสียอวัยวะและการแตกหักของกระดูก) – ประกันให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ที่เกิดจากความเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ | – ประกันภัยร้ายแรง (Critical Illness) – ประกันภัยระยะยาว (Long Term Care) – ประกันภัยอุบัติเหตุ (การทุพพลภาพ, การสูญเสียอวัยวะและการแตกหักของกระดูก) – ประกันให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ที่เกิดจากความเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ |
สิทธิประโยชน์ทางภาษี | – ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท ต่อปี – รวมเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและเงินฝากแบบประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท | – ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท ต่อปี – แบ่งจ่ายเบี้ยประกันร่วมกับพี่น้องของตนเองสามารถลดหย่อนได้สูงสุดจากการหารเฉลี่ยจำนวนพี่น้องที่ร่วมกันจ่ายประกัน – คู่สมรสสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท ต่อปี |
เงื่อนไขการนำประกันมาลดหย่อนภาษี | – ต้องทำกับบริษัทประกันภัยในไทยเท่านั้น | – พ่อแม่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อปี – ตัวเราหรือพ่อแม่ต้องอยู่ในไทยเกิน 180 วันในปีนั้น ๆ – ต้องเป็นสายเลือดเดียวกันเท่านั้น |
รู้หรือไม่? หากต้องการใช้ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษี ต้องแจ้งประสงค์ให้บริษัทประกันทราบด้วย เพื่อให้บริษัทประกันรวบรวมข้อมูลส่งกรมสรรพากร โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขได้ที่บริษัทประกันที่คุณให้ความสนใจ
กองทุน RMF ใช้ลดหย่อนภาษีได้! คลิกเลย
ประกันสุขภาพ เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพและการวางแผนชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
- ผู้ที่ต้องการหลักประกันสุขภาพเพิ่มเติม
- ผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
- ผู้ที่ต้องการเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ
- ผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ
แนะนำ! 5 ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี ปี 2024
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพที่ไหนดี ปี 2024 ในวันนี้เราได้รวบรวม 5 บริษัทประกันภัยที่น่าสนใจ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของคุณ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- AIA Infinite Care (เอไอเอ อินฟินิท แคร์)
- Muang Thai Life (เมืองไทยประกันชีวิต)
- Allianz Ayudhya (อลิอันซ์ อยุธยา)
- The Viriyah Insurance (วิริยะประกันภัย)
- Bangkok Life Assurance (กรุงเทพประกันชีวิต)
ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี : AIA Infinite Care (เอไอเอ อินฟินิท แคร์)
โปรแกรม
- AIA Infinite Care (New Standard) : ประกันสุขภาพเหมาจ่าย (สัญญาเพิ่มเติม)
ระยะเวลาคุ้มครอง
- สูงสุดถึงอายุ 99 ปี
ช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
- ตั้งแต่ 18 ปี – 75 ปี และต่ออายุได้ถึง 98 ปี
ข้อมูลทั่วไป
AIA Infinite Care เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย (สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล AIA INFINITE CARE) ที่คุ้มครองสูงสุด 120 ล้านบาทต่อปีกรมธรรม์ โดยมีความคุ้มครองผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมการล้างไต, การฉายรังสีบำบัด, เคมีบำบัด และกรณีฉุกเฉินอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ AIA ยังเลือกพื้นที่ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลได้ทั่วโลก
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เลือกวงเงินความคุ้มครอง : 60 ล้านบาทและ 120 ล้านบาท
- เลือกแผนความคุ้มครอง : ไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรก มีความรับผิดชอบส่วนแรก 100,000 บาท และ 300,000 บาท
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั่วโลก ยกเว้นประเทศสหรัฐฯ และเกาะเล็กรอบนอกของสหรัฐฯ
ตัวอย่างตารางผลประโยชน์
* หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดตารางผลประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่นี่
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของ AIA
- ประกันสุขภาพตนเองลดหย่อนภาษีสูงสุด 25,000 บาท ต่อปี
- ประกันสุขภาพพ่อแม่ลดหย่อนภาษีสูงสุด 15,000 บาท ต่อปี
- ประกันชีวิตทั่วไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท ต่อปี
ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี : Muang Thai Life (เมืองไทยประกันชีวิต)
โปรแกรม
- Elite Health Plus สัญญาเพิ่มเติม อีลิท เฮลท์ พลัส
ระยะเวลาคุ้มครอง
- สูงสุดถึงอายุ 99 ปี
ช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
- ตั้งแต่ 11 ปี – 90 ปี และต่ออายุได้ถึง 98 ปี
ข้อมูลทั่วไป
Elite Health Plus เป็นสัญญาเพิ่มเติมของเมืองไทยประกันชีวิตที่ครอบคลุมโรคทั่วไป, โรคร้ายทุกระยะ และโรคระบาด เช่นการฟอกไต, การรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดแบบ Targeted Therapy นอกจากนี้ อีลิท เฮลท์ พลัสยังครอบคลุมการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการวินิจฉัยโรคผ่าน MRI และ CT Scan โดยไม่จำเป็นต้องแอดมิตอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เลือกวงเงินความคุ้มครอง : 20 ล้านบาท, 40 ล้านบาท, 75 ล้านบาท และ 100 ล้านบาท
- ค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่และให้เลือกความคุ้มครองได้เพียง 1 พื้นที่เท่านั้น
- ความคุ้มครองเสริมที่สามารถให้ความคุ้มครองได้เฉพาะในไทย ได้แก่การคลอดบุตร พลัส และสุขภาพดี พลัส
- ค่าเบี้ยประกันภัยของสัญญาจะแตกต่างกันตามช่วงอายุ, เพศ, อาชีพ และแผนความคุ้มครองของผู้เอาประกัน ทั้งนี้ อาจเปลี่ยนแปลงตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
ตัวอย่างตารางผลประโยชน์
* หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดตารางผลประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่นี่
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของ Muang Thai Life
ผู้เอาประกันสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรเป็นผู้กำหนด
ประกันสุขภาพที่ไหนดี : Allianz Ayudhya (อลิอันซ์ อยุธยา)
โปรแกรม
- ประกันสุขภาพ เฟิร์สคลาส @บีดีเอ็มเอส
ระยะเวลาคุ้มครอง
- สูงสุดถึงอายุ 85 ปี
ช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
- ตั้งแต่ 6 ปี – 70 ปี และต่ออายุได้ถึง 84 ปี
ข้อมูลทั่วไป
ประกันสุขภาพ เฟิร์สคลาส @บีดีเอ็มเอส ดูแลค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง โดยคุ้มครองสูงสุดถึง 120 ล้านบาท ต่อปีในกรมธรรม์ภายใต้เครือโรงพยาบาล BDMS ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ซึ่งครอบคลุมการรักษาทั้งผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยนอก, ทันตกรรม, รักษามะเร็ง, ล้างไต และค่ารักษาทางจิตเวช เป็นต้น นอกจากนี้ยังคุ้มครองค่าฉีดวัคซีนและค่าตรวจสุขภาพประจำปีอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เลือกวงเงินความคุ้มครอง : 60 ล้านบาท และ 120 ล้านบาท
- มีให้เลือก 2 แผนความคุ้มครอง ได้แก่ แผนบียอนด์ แพลทินัมและแผนแพลทินัม
- ความคุ้มครองในโรงพยาบาลในเครือ BDMS ในประเทศไทยกว่า 44 แห่ง
ตัวอย่างตารางผลประโยชน์
* หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดตารางผลประโยชน์เพิ่มเติมได้เว็บไซต์อลิอันซ์ อยุธยา
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของ Allianz Ayudhya
ผู้เอาประกันภัยสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี และเมื่อรวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปจะรวมกันสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี
ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี : The Viriyah Insurance (วิริยะประกันภัย)
โปรแกรม
- วิริยะ โกลด์ บาย บีดีเอ็มเอส
ระยะเวลาคุ้มครอง
- สูงสุดถึงอายุ 100 ปี
ช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
- ตั้งแต่ 15 วัน – 65 ปี
- ผู้เอาประกันภัยอายุไม่เกิน 60 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
- ผู้เอาประกันภัยอายุไม่เกิน 60 ปี – 65 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 80 ปี
ข้อมูลทั่วไป
วิริยะ โกลด์ บาย บีดีเอ็มเอส เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายของวิริยะประกันภัยที่คุ้มครองสูงสุดถึง 5,000,000 บาท ต่อครั้ง โดยให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกเพิ่มเติมด้วยการรักษากับโรงพยาบาลในเครือ BDMS, เกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลกว่า 500 แห่ง โดยไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เลือกวงเงินความคุ้มครอง : 600,000 บาท, 1,000,000 บาท, 3,000,000 บาท และ 5,000,000 บาท
- มีให้เลือก 4 แผนความคุ้มครอง ได้แก่ แผน 1, แผน 2, แผน 3 และแผน 4
- ความคุ้มครองในโรงพยาบาลในเครือ BDMS
- อัตราเบี้ยประกันแตกต่างกันตามแผนความคุ้มครอง เช่น ค่าเบี้ยประกันของแผน 1 อยู่ที่ 1,546 บาท ต่อเดือน และแผน 2 อยู่ที่ 2,005 บาท ต่อเดือน เป็นต้น
ตัวอย่างตารางผลประโยชน์
* หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดตารางผลประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่นี่
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของวิริยะประกันภัย
ผู้เอาประกันภัยสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี
ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี : Bangkok Life Assurance (กรุงเทพประกันชีวิต)
โปรแกรม
- สุขภาพ สุขสันต์ (ออนไลน์)
ระยะเวลาคุ้มครอง
- สูงสุดถึงอายุ 55 ปี
ช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย
- ตั้งแต่ 20 ปี – 55 ปี
ข้อมูลทั่วไป
สุขภาพ สุขสันต์ (ออนไลน์) เป็นประกันที่ให้การคุ้มครองเกี่ยวกับมะเร็งและ 50 โรคร้ายแรงอื่น ๆ ของกรุงเทพประกันชีวิต โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 3,000,000 บาท รวมทั้งมีความคุ้มครองชีวิต 50,000 บาททุกแผนประกันชีวิต นอกจากนี้ รับเงินก้อนใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลและเงินสำรองการดำรงชีวิต ทันทีที่แพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เลือกวงเงินความคุ้มครอง : 500,000 บาท, 1,000,000 บาท, 2,000,000 บาท และ 3,000,000 บาท
- มีให้เลือก 4 แผนความคุ้มครอง
- รับความคุ้มครองชีวิต 50,000 บาททุกแผน
- ชำระเบี้ยประกันเป็นรายปี
ตัวอย่างตารางผลประโยชน์
* หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดตารางผลประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพประกันชีวิต
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของกรุงเทพประกันชีวิต
ผู้เอาประกันสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันภัยที่จ่ายตามจริงแล้วจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี
คุณกำลังมองหาบทความยอดนิยมอื่น ๆ อยู่หรือเปล่า?
แนะนำ! 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี สูงสุด 17.56% ส่งท้ายปี 2566
เช็กเลย! การเสียภาษีรายได้จากต่างประเทศ เตรียมพร้อมอะไรบ้าง? เริ่มปี 2567 นี้!
6 หุ้นธุรกิจ Healthcare ลงทุนอย่างไรดี? เมื่อโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพที่ไหนดี ปี 2024
ประกันสุขภาพที่เราแนะนำมี 5 ประกันภัย ได้แก่เอไอเอ อินฟินิท แคร์, เมืองไทยประกันชีวิต, อลิอันซ์ อยุธยา, วิริยะประกันภัย และกรุงเทพประกันชีวิต
หากคุณจะซื้อประกันสุขภาพต้องดูอะไรบ้าง ?
- ประเมินความเสี่ยงในการใช้ชีวิตของคุณ
- ประเมินสวัสดิการที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน
- เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสม
- ศึกษาเงื่อนไขการรับประกัน
- ศึกษาการเรียกร้องสินไหม
ประกันสุขภาพ เหมาะกับใคร
ประกันสุขภาพเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพและการวางแผนชีวิตเพิ่มเติมนั่นเอง
สรุปประกันสุขภาพ ที่ไหนดี
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า 5 ประกันสุขภาพที่เราได้คัดเลือกมานั้น เป็นเพียงการให้คำแนะนำเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเชื้อเชิญแต่อย่างใด เพราะการเลือกประกันสุขภาพที่ดีได้นั้น คุณควรมีการพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ ไปจนถึงการวางแผนยื่นภาษีและลดหย่อนภาษี เพื่อให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการจ่ายอัตราค่าเบี้ยประกันในทุก ๆ ปีครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News