Table of Contents
Table of Contents

เทรดทอง101: ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น? ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

——————–🐣——————–

ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น คืออีกหนึ่งสิ่งที่เทรดเดอร์หลายคนจับตามองในตลาดทองคำ Forex เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มักมีผลต่อราคาทองคำ ณ ช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการประกาศอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายทางการเงินที่มีผลต่อค่าเงินดอลลาร์ มักจะทำให้ราคาทองคำผันผวนเป็นอย่างมาก แล้วค่าเงินดอลลาร์กับราคาทองคำสัมพันธ์กันอย่างไร และมีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่มีผลต่อราคาทองคำ หาคำตอบกันได้ในบทความนี้ครับ

🔻เนื่องจากบทความนี้มีหลายประเด็น เราได้สรุปสาระสำคัญออกมาเป็นหัวข้อ ดังนี้

เทรดทอง Forex คืออะไร? อ่านทันที
ความสัมพันธ์ระหว่างดอลลาร์และทองคำอ่านทันที
ข้อยกเว้นที่ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่เป็นจริงอ่านทันที
เครื่องมือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ “ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้นจริงไหม”อ่านทันที
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ มีอะไรบ้างอ่านทันที
คาดการณ์ราคาทองคำในปี 2025อ่านทันที
แนะนำโบรกเกอร์เทรดทอง Forex สำหรับมือใหม่อ่านทันที

*หมายเหตุ : การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดและวางแผนรับมือความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

เทรดทอง Forex คืออะไร?

การเทรดทอง Forex คือ การซื้อ-ขายทองคำในรูปแบบสัญญาซื้อขาย CFDs (Contract For Difference) บนตลาด Forex โดยใช้สกุลเงินอ้างอิงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขาย โดยการเทรดทองบนตลาด Forex จะใช้สัญลักษณ์คือ “XAUUSD” สำหรับจุดเด่นสำคัญที่ทำให้การเทรดทอง Forex ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเทรดเดอร์ คือ สภาพคล่องในการซื้อขายสูง, สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น-ขาลง และทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มักผกผันตามค่าเงินดอลลาร์ ทำให้เทรดเดอร์อาศัยจุดนี้ในการทำกำไรครับ

ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาหาคำตอบกันว่า ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้นจริงหรือไม่ ? และมีปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อราคาทองคำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรรู้สำหรับการเทรดทอง Forex

ความสัมพันธ์ระหว่าง ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น

สำหรับค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบผกผัน (Inverse Relationship) ดังนี้

ความสัมพันธ์ระหว่าง ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น
  • หากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
    คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง
  • หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
    คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น

ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเกิดจากการที่กลุ่มนักลงทุนมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจผันผวนหรือตกต่ำ โดยในช่วงดังกล่าวค่าเงินมักจะอ่อนค่าลง โดยมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยซัพพอร์ตทฤษฎีดังกล่าว ได้แก่

  • การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ : เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กลุ่มนักลงทุนจะหันไปให้ความสนใจในการลงทุนกับสกุลเงินแทนการลงทุนในกลุ่มทองคำ ส่งผลให้อุปสงค์อุปทานของทองคำลดลง ดังนั้น ราคาทองคำจึงปรับตัวลงตามกลไกทางการตลาดครับ 
  • อัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อ : ภาวะเงินเฟ้อและปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินโดยตรง การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจากนโยบายของธนาคารกลางจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กลับกันในกรณีที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทองคำจึงถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ใครหลายคนต้องการ ส่งผลให้ราคาทองคำในช่วงนั้นจะสูงขึ้น แต่ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนลงจากภาวะเงินเฟ้อของเศรษฐกิจ

ข้อมูลเชิงสถิติจากปี 2020-2025: ทดสอบทฤษฎี “ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น”

ปีราคาทองคำเฉลี่ย (USD/oz)ดัชนีดอลลาร์ (DXY)ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
20201645.698.3ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น
20211799.595.6ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น
20221800.399.3ดอลลาร์แข็ง ทองอ่อน
20231923.9103.2ดอลลาร์แข็ง ทองขึ้น
20242331 (คาดการณ์)คาดการณ์ว่าลดลง
20252700 – 3000 (คาดการณ์)คาดการณ์ว่าลดลง

แหล่งที่มาของข้อมูล : GoldAround / Axi / Finnomena

🐔 Note จากไก่ : ตารางดังกล่าวเป็นการสรุปข้อมูลจากแหล่งที่มาหลากหลายแห่งเพื่อใช้ทดสอบทฤษฎี ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในปี 2023 ทั้งราคาทองคำและดัชนีดอลลาร์มีการปรับตัวสูงขึ้นด้วยกันทั้งคู่ แสดงให้เห็นว่า ทฤษฎีดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ ดังนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย โดยในหัวข้อถัดไปเราจะพูดถึงประเด็น ข้อยกเว้นที่แสดงให้เห็นว่า ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่เป็นจริงครับ

ข้อยกเว้นที่แสดงให้เห็นว่า ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่เป็นจริง

จากที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนว่า ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่เป็นจริงเสมอไปครับ เนื่องจากอาจมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่เข้ามาแทรกแซงและส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์และทองคำ อาทิเช่น 

  • เศรษฐกิจโลกชะลอตัว : เศรษฐกิจโลกมีผลต่อราคาทองและค่าเงินโดยตรง หากเศรษฐกิจ ณ ช่วงเวลานั้นกำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ยกตัวอย่างเช่น ปี 2008 วิกฤตการณ์ทางการเงินที่กลุ่มนักลงทุนเทขายทองคำเพื่อถือเงินสด หรือเลือกลงทุนในกลุ่มพันธบัตรรัฐบาลแทน แม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ Flight to Quality มักจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงแรกของวิกฤตการณ์เท่านั้น
  • การแทรกแซงโดยธนาคารกลาง : การแทรกแซงโดยธนาคารกลาง ไม่ว่าจะเป็นการปรับนโยบายทางการเงินเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในช่วงดอลลาร์อ่อนค่า อาจทำให้กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจกับค่าเงินมากกว่าทองคำ หรือการแทรกแซงตลาดทองคำด้วยการเทขายทองคำสำรองเพื่อลดราคาทองภายในตลาด เป็นต้น
  • ตลาดหุ้น : ตลาดหุ้นที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอาจทำให้น่าจับตามองมากกว่าทองคำ เพราะกลุ่มนักลงทุนให้ความคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่า อาทิเช่น ในช่วงปี 2017-2019 ที่หุ้นสหรัฐพุ่งสูงขึ้น แต่ราคาทองคำกลับปรับตัวลดลง
  • อุปทานเพิ่มขึ้น : การพบแหล่งทองคำใหม่อาจส่งผลให้อุปทานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงกดดันทางด้านราคาที่มีปริมาณการขายมากจนเกินไป แม้ว่าในช่วงนั้นค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนอยู่ก็ตาม

เครื่องมือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น

สำหรับเครื่องมือที่ช่วยเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ที่เทรดเดอร์ควรรู้จัก มีดังนี้ครับ

วิเคราะห์ ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น ด้วยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index)

ดัชนีดอลลาร์ หรือ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY หรือ USDX) คือ ดัชนีที่ใช้วัดมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่อื่น ๆ ซึ่งประกอบไปด้วย 

ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index)
  • ยูโร (EUR) คิดเป็นสัดส่วน 57.6%
  • เยนญี่ปุ่น (JPY) คิดเป็นสัดส่วน 13.6%
  • ปอนด์อังกฤษ (GBP) คิดเป็นสัดส่วน 11.9%
  • ดอลลาร์แคนาดา (CAD) คิดเป็นสัดส่วน 9.1%
  • โครนาสวีเดน (SEK) คิดเป็นสัดส่วน 4.2%
  • ฟรังก์สวิส (CHF) คิดเป็นสัดส่วน 3.6%

โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) จะใช้สำหรับการวัดความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์ว่ามีความแข็งค่ากว่าหรืออ่อนค่ากว่าสกุลเงินที่นำมาเปรียบเทียบ โดยดัชนีดอลลาร์จะถูกกำหนดค่าไว้ที่ 100 โดยสามารถตีความออกมาได้ ดังนี้

  • กรณีค่าดัชนีดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 115 หมายความว่า ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 15% จากฐาน
  • กรณีค่าดัชนีดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 90 หมายความว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 10% จากฐาน

ซึ่งดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) จะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์ราคาทองคำผ่านค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรศึกษาปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกันครับ

วิเคราะห์ ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น ด้วยปฏิทินข่าว Forex Factory

ปฏิทินข่าว Forex Factory

อย่างที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นว่า ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจเกิดได้จากปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์โดยตรง อาทิเช่น การปรับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง, การประกาศอัตราดอกเบี้ยใหม่, ตัวเลขการจ้างงาน หรือตัวเลข GDP ภายในสหรัฐฯ ล้วนสามารถบอกความแข็งแกร่งของค่าเงินในแต่ละช่วงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราจะสามารถติดตามข่าวหรือตัวเลขเหล่านี้ได้ด้วยเครื่องมืออย่าง ปฏิทินข่าว Forex Factory ครับ

🐔 Note จากไก่ : ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจมักมีผลต่อการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งมีผลต่อค่าเงินโดยตรง นอกจากนี้ยังมีผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน ซึ่งในเว็บไซต์ Forex Factory มีการรายงานข้อมูลส่วนนี้แบบ Real Time ทำให้เทรดเดอร์สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจและประกาศสำคัญทางการเงินได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างแม่นยำ รวมถึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงข่าวแรงได้เช่นกัน ซึ่งเราได้ทำสรุปคู่มือและวิธีการตั้งค่า Forex Factory ที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ไว้ให้คุณได้ศึกษาเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วครับ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ มีอะไรบ้าง ?

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วถึงปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำนอกเหนือจากค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งในหัวข้อนี้ เราจะกล่าวถึงปัจจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำ โดยสรุปออกมาได้ทั้งหมด 4 ปัจจัย ดังนี้ 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ : อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน

อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

อัตราดอกเบี้ยรวมถึงนโยบายทางการเงินที่ประกาศตัวเลขออกมาโดยธนาคารกลาง โดยเฉพาะ FED จะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์เป็นอย่างมาก โดยนโยบายทางการเงินมักจะเข้ามาช่วยสนับสนุนหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นมักจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งกลุ่มนักลงทุนจากทั่วโลกมักจะให้ความสนใจและเข้ามาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับจะสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงในช่วงเวลานั้นได้ครับ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ : ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

ราคาน้ำมันและทองคำมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบแปรผันตรง (Direct Variation) หากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำมักจะเพิ่มสูงขึ้นตามครับ โดยสาเหตุของสมการดังกล่าวเกิดจากการที่ทั้งสองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญและมักได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจ, วิกฤตการณ์ทางการเงิน หรืออุปสงค์อุปทาน ส่งผลให้ทั้งน้ำมันและทองคำมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น

ราคาน้ำมันมักเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู เนื่องจากเป็นช่วงที่กลุ่มธุรกิจเร่งผลิตสินค้าและบริการเพื่อจัดจำหน่ายลงในตลาด ทำให้น้ำมันถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการผลิตและขนส่ง ส่งผลให้อุปสงค์และอุปทานเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม แต่ผลที่ตามมา คือ ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ส่งผลให้คนเริ่มมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งก็คือทองคำ ทำให้ราคาทองคำก็สูงขึ้นด้วยเช่นกันครับ

🐔 Note จากไก่ : แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและน้ำมันอาจไม่ได้แปรผันตรงกันอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับดอลลาร์และทองคำที่แปรผกผันกันแต่ไม่ใช่ในทุกกรณี เนื่องจาก ในบางช่วงที่ราคาทองคำอาจเคลื่อนที่สวนทางกับราคาน้ำมัน เช่น ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันมักลดลงเนื่องจากความต้องการลดลง ขณะที่ทองคำอาจเพิ่มขึ้นเพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นต้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ : อุปสงค์และอุปทาน

อุปสงค์และอุปทานปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

อุปสงค์และอุปทานส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรง เนื่องจากเป็นปัจจัยที่เป็นไปตามกลไกทางเศรษฐกิจ โดยสามารถสรุปผลกระทบที่อุปสงค์และอุปทานมีต่อราคาทองคำได้ ดังนี้

  • อุปสงค์ (Demand) ของทองคำ : เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนต้องการเข้ามาเก็งกำไรในสินทรัพย์อย่างทองคำมากขึ้นส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย สามารถรักษามูลค่าได้ครับ 
  • อุปทาน (Supply) ของทองคำ : อย่างที่ทราบกันดีว่าทองคำเป็นสินทรัพย์โภคภัณฑ์ที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาของทองคำเคลื่อนไหวเมื่ออุปทานลดลงแต่ความต้องการซื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดการแทรกแซงได้จากกลุ่มธนาคารกลาง ด้วยการขายทองคำแท่งในระบบเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนทองคำเก่าในระบบ ส่งผลให้อุปทานเพิ่มขึ้นและราคาทองคำลดลงได้

🐔 Note จากไก่ : อย่างที่ได้กล่าวไปเราสามารถสรุปความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและอุปสงค์อุปทานได้ดังนี้ครับ
หากอุปสงค์มากกว่าอุปทาน ราคาทองคำจะสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการซื้อทองคำสูง
หากอุปทานมากกว่าอุปสงค์ ราคาทองคำจะลดลง เนื่องจากมีปริมาณทองคำที่จะขายมากกว่าความต้องการซื้อ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ : สถานการณ์เศรษฐกิจและเหตุการณ์โลก 

สถานการณ์เศรษฐกิจและเหตุการณ์โลก ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

สถานการณ์เศรษฐกิจมักจะเป็นตัวกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งมีผลต่อค่าเงินและราคาทองคำโดยตรงตามที่ได้กล่าวไปในหัวข้อปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงิน และสำหรับเหตุการณ์โลกก็สามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสงคราม, ไวรัสโรคระบาด หรือแม้แต่ความขัดแย้งทางการเมือง สามารถส่งผลต่อราคาทองคำได้จากความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ซึ่งทองคำ คือ สินทรัพย์ปลอดภัยที่ราคาจะสูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญครับ

🐔 Note จากไก่ : เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เราขอหยิบยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเพื่อให้เทรดเดอร์ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น อย่างเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในปี 2022 จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจหรือการคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศที่มีต่อรัสเซีย ทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 6-7% หรือประมาณ $130/oz ในช่วงสงคราม เนื่องจากทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดในช่วงสงคราม

คาดการณ์ราคาทองคำในปี 2025

ภาพรวมราคาทองคำในปี 2025 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงสนับสนุนในปัจจัยหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความต้องการจากกลุ่มธนาคารกลาง หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักวิเคราะห์จากทางธนาคารกลาง UOB ได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงถึง $2,700 ในกลางปีนี้ และอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึง $3,000 ในระยะยาวครับ 

⚠️ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนั้น เทรดเดอร์ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ

5 โบรกเกอร์ Forex เทรดทองยอดนิยม สเปรดต่ำ 2025นอกเหนือจากปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองที่คุณควรให้ความสนใจ การเลือกโบรกเกอร์สำหรับเทรดทอง Forex ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะการเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวแรกที่คุณควรเริ่มต้นให้ดีที่สุด โดยเราได้สรุปรวมโบรกเกอร์สำหรับเทรดทอง Forex ที่มีทั้งความคุ้มค่า น่าเชื่อถือ เป็นมิตรกับเหล่าเทรดเดอร์ คุณสามารถคลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านข้อมูลโบรกเกอร์ต่อได้เลยครับ 

ตัวอย่างโบรกเกอร์เทรดทอง Forex ที่น่าสนใจ

หมายเหตุ : การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง และการเลือกโบรกเกอร์ Forex จำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติในหลายด้านของโบรกเกอร์ ซึ่งคุณควรศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนครับ

ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น เป็นอีกหนึ่งหลักการที่เทรดเดอร์สายเทรดทองมักเข้าใจกันเป็นอย่างดี เนื่องจากทั้งค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบผกผัน ทำให้เทรดเดอร์หลายคนใช้จุดนี้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางราคา โดยสามารถสรุปรูปแบบความสัมพันธ์ของดอลลาร์และทองคำได้ ดังนี้ 

  • หากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง
  • หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อน ทองขึ้น อาจไม่สามารถใช้ได้ในทุกเหตุการณ์ เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระดับอุปสงค์อุปทาน, ความไม่มั่นคงทางการเมือง, นโยบายทางการเงิน หรือราคาน้ำมัน ล้วนแต่มีผลต่อราคาทองคำเช่นเดียวกันกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์ควรติดตามข่าวหรือประกาศสำคัญทางเศรษฐกิจเพื่อวางแผนการเทรดหรือรับมือความเสี่ยงที่อาจเกิดจากความผันผวนของราคาทองคำอยู่เสมอครับ 


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –