Visa ประกาศเปิดตัวโครงการ “Visa Creator” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผลกลยุทธ์ One-Year Product และโปรแกรมการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการเพิ่มอัตราธุรกิจขนาดเล็กของตนผ่านโทเค็น NFT โดยเป้าหมายคือการรวบรวมและส่งเสริมกลุ่มนักสร้างสรรค์ดิจิทัลทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนและการค้า NFT
จากเดิมบริษัทเคยประกาศโครงการนี้ในเดือนตุลาคม 2564 โดยศิลปินคนแรกก็คือ Micah Johnson อดีตนักเบสบอลมืออาชีพผู้ที่เกษียณตัวเองหลังจากการบาดเจ็บหลายครั้งเพื่อมาเป็น Visual Artist เขาเป็นผู้สร้างชุมชน Aku World NFT โดยตัว Aku ก็เป็นนักบินอวกาศผิวดำที่ได้รับเป็นตัวเลือกสำหรับโครงการทางโทรทัศน์และภาพยนต์โดย Anonymous Content และ Permanent Content และถือเป็น NFT ชิ้นแรกที่ได้มีโอกาสเดินทางแบบดิจิทัลไปยังสถานีอวกาศอีกด้วย
มูลค่าการตลาดรวมของ Johnson มีมากกว่า 6,178 ETH หรือประมาณ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ (31 มีนาคม 2565 เวลาไทย 14.42 น.) อ้างอิงจาก CryptoArt ณ ตอนนี้เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้สร้างเนื้อหาระดับต้น ๆ ของยักษ์ใหญ่แห่งด้านการชำระเงินและปฏิบัติงานด้าน Gig Economy ที่มีส่วนร่วมกับ NFT แล้ว
หัวหน้าฝ่าย Crypto ของ Visa นาย Cuy Sheffield กล่าวในวันแถลงการณ์ว่า “NFT มีศักยภาพมากที่จะกลายมาเป็นเสมือนตัวเร่งสำหรับเศรษฐกิจของตัว Creator” โดยเขายังกล่าวเสริมว่าตัวโครงการ Visa Creator เป็นวิธีการที่ช่วยให้ “ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงสื่อใหม่ ๆ สำหรับการค้าดิจิทัล”
นอกจากการให้คำปรึกษาและด้านชุมชนของโปรแกรมแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก เช่น โอกาสในการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายลูกค้าและพันธมิตรของ Visa รวมไปถึงสิทธิในการเข้าถึงผู้นำทางความคิดในพื้นที่ Web3 และผู้เข้าร่วมยังจะได้รับค่าตอบแทนแบบครั้งเดียวเพื่อช่วยในการเริ่มต้นแผนธุรกิจต่อ ๆ ไปของบริษัท
โครงการ Visa Creator แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบัตรเครดิต หลังจากการเข้าซื้อกิจการ CryptoPunk มูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนสิงหาคม 2564 การเปิดตัวโครงการ “Universal Payment Channel” (UPC) ที่มีเป้าหมายในการกลายเป็นผู้เชื่อมต่อบล็อกเชนทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้การโอนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านบล็อกเชนแต่ละเครือข่ายสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และความสำเร็จของบัตรที่เปิดให้ใช้จ่ายผ่าน Cryptocurrencies ได้
ในหลาย ๆ บริษัทเริ่มที่ให้ความสนใจกับธุรกิจ NFT มากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เหล่านักสร้างสรรค์มีโอกาสในการแสดงความสามารถของตนเองและรับผลประโยชน์จากสิ่งนั้น หวังอย่างยิ่งว่าในภายภาคต่อไปในอนาคตธุรกิจ NFT จะพัฒนาต่อไปและได้รับโอกาสเช่นนี้อีก