Table of Contents
Table of Contents

CCI Indicator คืออะไร ? ทำความรู้จักอินดิเคเตอร์วัดระดับราคา ตัวช่วยการเทรดที่ไม่ควรพลาด!

รู้จัก CCI Indicator คืออะไร ? อินดิเคเตอร์วัดระดับราคา

CCI Indicator หรือ Commodity Channel Index ถือเป็นอีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถหาจุดซื้อขายและบอกแนวโน้มของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง CCI Indicator ถือเป็นอีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแม้ว่าอินดิเคเตอร์ชนิดนี้จะใช้สำหรับวิเคราะห์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ในปัจจุบันได้มีการนำมาประยุกต์ใช้กับทุก ๆ ตลาดสินทรัพย์โดยเฉพาะตลาด Forex วันนี้ทีมงาน Gotradehere จะพาไปรู้จักกับ CCI Indicator คืออะไร ? พร้อมเทคนิคการใช้งานอินดิเคเตอร์และวิธีการอ่านค่า ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ 

———————————— 🐣 ————————————

CCI Indicator คืออะไร ?

CCI (Commodity Channel Index) คือ อินดิเคเตอร์ประเภทโมเมนตัมที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของราคาสินทรัพย์โดยเทียบจากราคาปัจจุบันกับราคาเฉลี่ยในอดีต เพื่อใช้วัดระดับความแข็งแกร่งของราคาและแนวโน้มทิศทางราคา ในอดีต CCI ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้วัดวัฏจักรของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) แต่ในปัจจุบันเทรดเดอร์ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการเทรดเพื่อหาจุดเข้าซื้อ-จุดขาย หาแนวโน้มการกลับตัวของราคา หรือบอกสัญญาณการซื้อขายสินทรัพย์ เป็นต้นครับ

วิธีการคำนวณ CCI Indicator 

CCI : Typical Price – Moving Average / 0.015 x Mean Deviation

✏️ เมื่อแทนค่าด้วย

  • Typical Price = ΣPeriods(ราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด + ราคาปิด) / 3
  • Moving Average = ΣPeriods (Typical Price) / Periods
  • Mean Deviation = (ΣPeriods | Typical Price – MA |) / Periods 

โดยที่ Periods หมายถึง จำนวนแท่งเทียน 

วิธีการอ่านค่าและตีความ CCI Indicator 

CCI Indicator สามารถอ่านค่าได้ทั้งหมด 2 แบบดังนี้ครับ

  • CCI > 100 หมายถึง ณ ช่วงเวลานั้นภายในตลาดสินทรัพย์มีแรงซื้อมากเกินกว่าปกติ ทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยของราคาในอดีต เรียกว่า “การเกิด Overbought” ซึ่งมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลงในไม่ช้า
  • CCI < -100 หมายถึง ณ ช่วงเวลานั้นภายในตลาดสินทรัพย์มีแรงขายมากเกินกว่าปกติ ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของราคาในอดีต เรียกว่า “การเกิด Oversold” ซึ่งมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้นในไม่ช้า

ข้อดีและข้อจำกัดในการใช้ CCI Indicator

ข้อดีในการใช้ CCI Indicator

  • ช่วยระบุภาวะ Overbought และ Oversold
  • ช่วยระบุจุดกลับตัวของราคา
  • ใช้เพื่อบอกสัญญาณซื้อขาย
  • ใช้เพื่อบอกแนวโน้มราคาสินทรัพย์

ข้อจำกัดในการใช้ CCI Indicator

  • เนื่องจาก CCI Indicator มีวัตถุประสงค์ดั้งเดิมเพื่อใช้วัดราคาของสินทรัพย์โภคภัณฑ์ หากนำมาใช้กับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ อาจทำให้เกิดสัญญาณหลอกหรือคลาดเคลื่อนได้ เทรดเดอร์ควรใช้อินดิเคเตอร์อื่น เช่น Stochastic Oscillator หรือ Moving Average เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวิเคราะห์ครับ

วิธีการเรียกใช้ CCI Indicator บน TradingView

วิธีการเรียกใช้ CCI Indicator

ขั้นที่ 1 เรียกใช้งาน CCI Indicator

  1. เปิดหน้ากราฟของสินทรัพย์ที่ต้องการใช้ CCI Indicator
  2. กดเลือกเมนูอินดิเคเตอร์บริเวณแทบด้านบน
  3. พิมพ์ค้นหา CCI ในช่องค้นหาอินดิเคเตอร์
  4. เลือกอินดิเคเตอร์ที่ชื่อว่า Commodity Channel Index จากนั้นจะแสดงผลลัพธ์ของอินดิเคเตอร์บริเวณด้านล่างกราฟ

วิธีการตั้งค่า CCI Indicator

ขั้นที่ 2 วิธีการตั้งค่า CCI Indicator

  1. กดที่รูปฟันเฟืองบริเวณชื่ออินดิเคเตอร์ที่ปรากฏ (ตามในรูป)
  2. จากนั้นหน้าต่างการตั้งค่าอินดิเคเตอร์จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
  3. เทรดเดอร์สามารถตั้งค่าข้อมูลที่ใช้คำนวณ รูปแบบกราฟ และการแสดงผลได้ที่หน้าต่างนี้

แนะนำการตั้งค่า CCI Indicator ต้องดูอะไรบ้าง ?

1.ระยะเวลาที่ต้องการ

สำหรับระยะเวลาที่เทรดเดอร์นิยมตั้งค่า CCI Indicator คือ 14 วัน เนื่องจากข้อมูลราคาในช่วง 14 วันที่ผ่านมาถือเป็นตัวเลขที่มีความแม่นยำและเหมาะสมที่สุดกับการนำมาปรับใช้ หรือเทรดเดอร์อาจจะพิจารณาใช้ตามเกณฑ์อื่น ๆ เช่น 

  • ใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าในการสร้างสัญญาณ (9-10 วัน) ซึ่งจะให้สัญญาณที่รวดเร็วและมากกว่าแต่สามารถเกิดสัญญาณหลอกได้ง่ายกว่าเช่นกัน
  • ใช้ระยะเวลาที่ยาวกว่าในการสร้างสัญญาณ (20-25 วัน) ซึ่งจะให้สัญญาณที่ช้ากว่าแต่มีความแม่นยำสูงโอกาสเกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่าครับ

2.Time Frame ที่ควรใช้

CCI Indicator สามารถใช้ร่วมกับ Time Frame ได้หลายรูปแบบ เช่น 1H, 4H, 1D หรือ 1W เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดของแต่ละคน หากเป็นเทรดเดอร์สาย Day Trade อาจใช้ Time Frame ในระยะสั้น ๆ ที่ทำให้มองเห็นทิศทางราคาได้แบบละเอียด หรือใช้ Time Frame ระยะยาวเพื่อต้องการวิเคราะห์แนวโน้มทิศทางราคาและวางแผนหาจุดเข้าซื้อ-จุดขายครับ

3.การ Indicator ชนิดอื่นร่วมวิเคราะห์กับ CCI Indicator 

เทรดเดอร์อาจใช้ Indicator ชนิดอื่นร่วมวิเคราะห์กับ CCI Indicator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวิเคราะห์ของตัวเทรดเดอร์เอง ยกตัวอย่างเช่น การใช้ Moving Average ในการยืนยันแนวโน้มทิศทางราคาของสินทรัพย์ หรือใช้ Stochastic Indicator เพื่อยืนยันจุดเข้าซื้อ-จุดขายที่ดีที่สุดครับ 

การใช้ CCI Indicator กับการเทรด Forex เบื้องต้น

สำหรับ CCI (Commodity Channel Index) สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรด Forex ได้ดังนี้ครับ

📌 CCI Indicator บอกแนวโน้มเทรนด์ตลาดใหม่

CCI Indicator บอกแนวโน้มเทรนด์ตลาดใหม่

CCI Indicator ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มเทรนด์ของราคาสินทรัพย์ใหม่จากการเคลื่อนไหวของกราฟที่เหนือระดับ 100 และต่ำกว่า -100 ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของราคาที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นและปรับตัวลดลง ยกตัวอย่างเช่น 

  • จากกราฟเมื่อ CCI ทะลุเกิน 100 (เส้นสีเขียว) เป็นสัญญาณบอกแนวโน้มว่าราคาสินทรัพย์จะมีการปรับตัวเข้าสู่รอบขาขึ้น
  • จากกราฟเมื่อ CCI ทะลุเกิน -100 (เส้นสีแดง) เป็นสัญญาณบอกแนวโน้มว่าราคาสินทรัพย์จะมีการปรับตัวเข้าสู่รอบขาลง

⛔️ แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดสัญญาณหลอก ซึ่งแนวโน้มทิศทางราคาควรจะเป็นขาขึ้น แต่กลับตัวกลายเป็นขาลงได้เช่นกันครับ

📌 CCI Indicator บอกสภาวะ Overbought / Oversold

CCI Indicator บอกสภาวะ Overbought / Oversold

CCI Indicator สามารถบอกแนวโน้มการกลับตัวของราคาสินทรัพย์ผ่านสภาวะ Overbought&Oversold ซึ่งสภาวะดังกล่าวสามารถบอกแนวโน้มทิศทางราคาได้ดังนี้ครับ

  • กรณีที่ค่า CCI > 100 (บริเวณสีแดง) หมายถึง ตลาดมีสภาวะ Overbought ทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นจากการซื้อที่มากเกินกว่าปกติ เทรดเดอร์สามารถพิจารณาและวิเคราะห์แผนการเทรดของตัวเองได้ คือ เทรดเดอร์เปิดสถานะ Buy เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงที่ราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ หรือเปิดสถานะ Sell เพื่อทำกำไรในระยะยาวเมื่อราคาสินทรัพย์กลับตัวเป็นขาลง
  • กรณีที่ค่า CCI > -100 (บริเวณสีเขียว) หมายถึง ตลาดมีสภาวะ Oversold ทำให้ราคาสินทรัพย์ลดลงจากการขายที่มากเกินกว่าปกติ เทรดเดอร์สามารถพิจารณาและวิเคราะห์แผนการเทรดของตัวเองได้ คือ เทรดเดอร์เปิดสถานะ Sell เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงที่ราคายังคงปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ หรือเปิดสถานะ Buy เพื่อทำกำไรในระยะยาวเมื่อราคาสินทรัพย์กลับตัวเป็นขาขึ้น

📌 CCI Indicator บอกการเกิด Divergence 

สำหรับ Divergence หมายถึง สัญญาณการเคลื่อนที่ของกราฟอินดิเคเตอร์และกราฟทิศทางราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยกับอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator หรือ Momentum Indicator ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถระบุจุดกลับตัวของราคาสินทรัพย์ได้ โดย Divergence ที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ครับ 

CCI Indicator บอกการเกิด Divergence 

Bullish Divergence สัญญาณกลับตัวแนวโน้มขาขึ้น

Divergence ประเภทนี้มักเกิดอยู่บริเวณ Oversold (CCI < -100) โดยลักษณะของกราฟอินดิเคเตอร์จะมีทิศทางเป็นขาขึ้นแต่กราฟราคาสินทรัพย์อยู่ในทิศทางขาลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคาปัจจุบันมีความอ่อนแอในแนวโน้มราคาขาลงและมีโอกาสที่จะกลับตัวเป็นขาขึ้นครับ

Bearish Divergence สัญญาณกลับตัวแนวโน้มขาลง

Divergence ประเภทนี้มักเกิดอยู่บริเวณ Oversold (CCI > 100) โดยลักษณะของกราฟอินดิเคเตอร์จะมีทิศทางเป็นขาลงแต่กราฟราคาสินทรัพย์อยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคาปัจจุบันมีความอ่อนแอในแนวโน้มราคาขาขึ้นและมีโอกาสที่จะกลับตัวเป็นขาลงครับ

📌 CCI Indicator บอกสัญญาณการซื้อขาย 

CCI Indicator บอกสัญญาณการซื้อขาย 

สำหรับสัญญาณการซื้อขายเทรดเดอร์สามารถพิจารณาการเปิดออเดอร์เมื่อสิ้นสุดวันได้ดังนี้ครับ

  • เมื่อ CCI เคลื่อนที่ค่าระดับ 0 ในทิศทางขาขึ้น (เส้นสีเขียว) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มทิศทางราคายังคงเป็นขาขึ้นอยู่ เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ฝั่ง Buy เพื่อทำกำไรในระยะสั้นระหว่างวันครับ
  • เมื่อ CCI เคลื่อนที่ค่าระดับ 0 ในทิศทางลดลง (เส้นสีแดง) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มทิศทางราคายังคงเป็นขาลงอยู่ เทรดเดอร์อาจเปิดออเดอร์ฝั่ง Sell เพื่อทำกำไรในระยะสั้นระหว่างวันครับ

สำหรับเทรดเดอร์สิ่งที่ควรระวังในการใช้ Indicator ในทุก ๆ ชนิดไม่เว้นแต่ CCI Indicator คือ การเกิดสัญญาณหลอกของอินดิเคเตอร์ เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์ควรที่จะใช้ Indicator อื่น ๆ ประกอบการวิเคราะห์กราฟแนวโน้มราคาของสินทรัพย์หรือศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาสินทรัพย์อื่น ๆ ควบคู่ไปกับการใช้ CCI Indicator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ครับ

———————————— 🐣 ————————————

CCI Indicator ย่อมาจาก

CCI Indicator ย่อมาจาก Commodity channel index เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator ที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของราคาสินทรัพย์เมื่อเปรียบเทียบจากค่าเฉลี่ยของราคาในอดีตครับ

CCI ตั้งค่าเวลาเท่าไหร่ดี

สำหรับการตั้งค่า CCI โดยปกติเทรดเดอร์นิยมตั้งค่าที่ 14 (ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วัน) ซึ่งเทรดเดอร์สามารถตั้งค่าให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตนเองให้มากที่สุด หากกำหนดค่าตัวเลขที่สูงขึ้นความแม่นยำของอินดิเคเตอร์ก็จะสูงขึ้นตามแต่ความถี่ของการเกิดสัญญาณก็จะน้อยกว่าครับ

RSI กับ CCI แตกต่างกันอย่างไร

RSI คืออินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดระดับของราคาสินทรัพย์เมื่อเทียบกับราคาล่าสุดที่มีการปรับขึ้นและปรับลงโดยแสดงค่าออกมาเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0-100 ส่วน CCI คืออินดิเคเตอร์ที่ที่วัดระดับของราคาสินทรัพย์เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยย้อนหลัง ซึ่ง Indicator ทั้ง 2 ชนิดสามารถบอกแนวโน้มทิศทางราคาและแนวโน้มการกลับตัวของราคาสินทรัพย์ได้เช่นกันครับ

———————————— 🐣 ————————————

🔎 บทความที่เกี่ยวข้องกับ CCI Indicator
MACD คือ อะไร? Indicator บอกแนวโน้มราคาได้แม่นยำกว่า 90% พร้อมเคล็ดลับการทำกำไร
สุดยอด! 5 อินดิเคเตอร์ที่ดีที่สุด (Indicator) จาก ChatGPT ล่าสุด 2024
RSI คือ อะไร? RSI Indicator สุดคลาสสิค “เก่าแต่ยังเก๋าอยู่”
Moving Average คือ อะไร? สุดยอด Indicator พื้นฐานที่ใช้ง่ายที่สุด ใครก็เทรดได้
Stochastic Oscillator คืออะไร? อินดิเคเตอร์หาจุดซื้อ-ขายที่ดีที่สุดในการเทรด Forex

———————————— 🐣 ————————————

CCI Indicator (Commodity channel index) เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวัดความแข็งแกร่งของราคาสินทรัพย์เมื่อเปรียบเทียบจากค่าเฉลี่ยของราคาในอดีต ซึ่ง CCI Indicator สามารถช่วยให้เทรดเดอร์วิเคราะห์แนวโน้มทิศทางราคาและบอกสัญญาณการกลับตัวของราคาได้ 

แต่อย่างไรก็ตามอินดิเคเตอร์สามารถทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วเทรดเดอร์ควรใช้อินดิเคเตอร์อื่น ๆ ควบคู่ไปกับ CCI Indicator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดให้แม่นยำมากยิ่งขึ้นครับ


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –