ทำความรู้จัก DeFi เทคโนโลยีปฏิวัติโลกการเงินที่น่าทึ่ง!

DeFi คืออะไร ? หนึ่งในเทคโนโลยีการเงินที่ผู้คนให้ความสนใจและจับตามองในยุคที่เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ กำลังเฟื่องฟู คงปฏิเสธไม่ได้ว่า DeFi คือ หนึ่งในเทคโนโลยีทางการเงินที่มีความน่าสนใจที่สุดในปัจจุบันนี้ เนื่องจาก DeFi จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงโลกการเงินที่เราเห็นกันในปัจจุบันให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง วันนี้พวกเราทีมงาน GoTradeHere จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่า DeFi คืออะไร ? ในบทความนี้ หากอ่านจบแล้วรับรองว่าจะเข้าใจเพิ่มมากขึ้นแน่นอนครับ

———————————— 🐣 ————————————

🔎สรุปหัวข้อสำคัญในบทความนี้

ต้นกำเนิดของ DeFi	Read More
DeFi คืออะไร ?	Read More
ความแตกต่างระหว่าง DeFi และ TradFi	Read More
การให้บริการของ DeFi มีอะไรบ้าง ?	Read More
ภาพรวมแนวโน้มของ DeFi	Read More
เหรียญ DeFi ที่มีมูลค่าสูงสุด 5  อันดับปี 2024	Read More
ข้อดี – ข้อเสียของ DeFi	Read More
ความเสี่ยงของ DeFi มีอะไรบ้าง ?	Read More
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Defi	Read More
สรุป Defi คืออะไร ?	Read More

ต้นกำเนิดของ DeFi 

DeFi เกิดจากการรวมตัวของคอมมูนิตี้ Etherum ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนามาจาก Blockchain ของ Bitcoin ที่ยึดถือแนวคิดเกี่ยวกับระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง และตอบสนองความต้องการในการทำธุรกรรมทางการเงินที่รวดเร็ว โดยจุดมุ่งหมายของการจัดทำ DeFi คือ สามารถทำธุรกรรมในแบบที่สถาบันการเงินทำอยู่ในปัจจุบันได้ เช่น การกู้ยืม การแลกเปลี่ยน และการลงทุน เป็นต้น โดยการทำธุรกรรมเหล่านี้ต้องใช้ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และโปร่งใสกว่าการดำเนินงานของสถาบันการเงินในปัจจุบัน

แต่ DeFi ก็ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากจุด ๆ เดียว แต่เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากแนวคิดและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ครับ 

DeFi คืออะไร ?

DeFi (Decentralized Finance) คือ ระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่สามารถดำเนินธุรกรรมการเงินได้ทั้งการจ่ายเงิน กู้เงิน ตลอดจนการลงทุน โดยธุรกรรมเหล่านี้สามารถทำได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางที่เป็นสถาบันการเงิน แต่จะใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อเรียกว่า Blockchain ในการเก็บข้อมูล และดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน Smart Contract แทน ทำให้ DeFi มีความโปร่งใสที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวครับ

💡 ดังนั้น Smart Contract และ Blockchain จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ DeFi นั่นเองครับ

ความแตกต่างระหว่าง DeFi และ TradFi

หลายท่านอาจจะยังไม่เข้าใจคำว่า TradFi ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่า TradFi คือ การเงินแบบดั้งเดิมที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อทราบอย่างนี้แล้วทุกท่านอาจจะเห็นภาพความแตกต่างระหว่าง DeFi และ TradFi เพิ่มมากขึ้น แต่เพื่อความชัดเจนผมจะเปรียบเทียบเป็นตาราง ดังนี้

	DeFi	TradFi
หลักการทำงาน	ทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain	ทำงานผ่านระบบของสถาบันการเงิน
ความเป็นส่วนตัว	ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว	ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อการทำธุรกรรม
ตัวกลาง	ไม่มีตัวกลาง (ดำเนินการผ่าน Smart Contract)	มีตัวกลาง เช่น ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารกลาง เป็นต้น
ความเสี่ยง	มีความเสี่ยงที่สูงกว่า	มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า
ค่าธรรมเนียม	มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า	มีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า

📬 Tips ในปัจจุบันคนยังคนนิยมใช้ TradFi มากกว่า DeFi แม้ DeFi จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ความคุ้นเคยและความไว้วางใจในการใช้งาน TradFi ยังคงมีมากกว่า DeFi ครับ

การให้บริการของ DeFi มีอะไรบ้าง ?

ปัจจุบัน DeFi มีการให้บริการที่หลากหลายครอบคลุม ทางทีมงาน GoTradeHere จะยกตัวอย่างบริการที่สำคัญ ดังนี้

การกู้ยืม 

นักลงทุนสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาฝากเพื่อให้ผู้อื่นกู้ยืมได้ หรือสามารถกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยการนำสินทรัพย์อื่นมาวางเป็นหลักประกันก็ได้เช่นกันครับ

การแลกเปลี่ยน

ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม DeFi สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกันได้โดยตรง โดยที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง

การใช้จ่าย

DeFi สามารถนำมาใช้จ่ายได้ แต่ยังไม่มีการนำมาใช้แพร่หลายมากนักในปัจจุบันเนื่องจาก DeFi ยังมีข้อจำกัดอยู่ครับ

ภาพรวมแนวโน้มของ DeFi

แนวโน้มการเติบโตของ DeFi ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ครับ และส่วนตัวผมมองว่า DeFi จะเข้ามามีบทบาทหน้าที่ในระบบการเงินเพิ่มมากขึ้นด้วยเหตุผลที่ว่า ปัจจุบันหลายประเทศมีการส่งเสริมนวัตกรรม DeFi และสร้างขอบเขตการกำกับดูแลที่ชัดเจนมากกว่าเดิม จึงทำให้เอื้อต่อการเติบโตของ DeFi ครับ

จากภาพจะเห็นได้ว่า TVL (Total Value Locked) ของ DeFi พุ่งสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ความเชื่อมั่นและความเติบโตของระบบนิเวศโดยรวมของ DeFi นั้นเพิ่มมากขึ้นจากเดิม ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นการใช้งาน DeFi ที่เพิ่มมากขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้ครับ

เหรียญ DeFi ที่มีมูลค่าสูงสุด 5  อันดับปี 2024

	Coin	Market Cap	Total Supply
1	Avalanche (AVAX)	399.97 ล้านบาท	442,754,699 AVAX
2	Chainlink (LINK)	305.73 ล้านบาท	1,000,000,000 LINK
3	Uniswap (UNI)	218.73 ล้านบาท	1,000,000,000 UNI
4	Dai (DAI)	196.28 ล้านบาท	∞
5	Internet Computer (ICP)	140.08 ล้านบาท	∞

*ข้อมูลอ้างอิงวันที่ 21 มิ.ย. 67

ข้อดี – ข้อเสียของ DeFi

ความเสี่ยงของ DeFi มีอะไรบ้าง ?

ความผันผวนของราคา

จะเกิดขึ้นในกรณีที่นำเงินไปลงทุนใน Liquidity Pool (LP) แต่ถ้าหากราคาของเหรียญที่เรานำไปฝากเกิดความผันผวน ซึ่งจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Impermanent Loss

Smart Contract อาจเกิดข้อบกพร่อง

จากการที่ใครก็สามารถเข้าใช้ระบบ Defi ได้ ทำให้อาจเกิดการโจมตีจากอาชญากรไซเบอร์ และยังไม่มีการรองรับการโจมตีที่กล่าวถึงนี้

Scammers

นักลงทุนอาจถูกเจ้าของโปรเจกต์โกงหรือโดนลอยแพได้ เมื่อเรานำเงินไปลงทุนใน DeFi Platform ดังนั้น ต้องศึกษาให้ดีว่า โปรเจกต์นั้นมีวัตถุประสงค์ใด และน่าเชื่อถือมากเท่าไร

การถูก Hack

เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมทางออนไลน์ หรือใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยโดยการเขียน Code ทำให้เกิดช่องว่างที่แฮกเกอร์อาจเจาะเข้าระบบได้ แต่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก

———————————— 🐣 ————————————

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Defi

เหรียญ DeFi คืออะไร ?

➣ เหรียญ DeFi คือ เหรียญสกุลเงินดิจิทัลประเภท Token ที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม DeFi เช่น Lido Staked ETH, Uniswap และ Aave

DeFi ลงทุนยังไง ?

➣ การลงทุนใน DeFi สามารถทำได้หลายวิธีครับ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีความเสี่ยงและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น Staking, Yield Farming และ Trading เป็นต้น

DeFi Wallet คืออะไร ?

➣ DeFi Wallet หรือเรียกง่าย ๆ ว่า กระเป๋าเงิน DeFi คือ ซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการโต้กลับของผู้ใช้งานในด้านของการบริการต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบ DeFi ครับ

สรุป Defi คืออะไร ?

DeFi มีหลักการทำงานบนเครือข่ายเทคโนโลยี Blockchain โดยดำเนินการต่าง ๆ ผ่าน Smart Contract ทำให้ DeFi มีความโปร่งใส ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายกว่าระบบการเงินที่เราใช้กันในปัจจุบันครับ 

ถึงแม้ว่า DeFi จะเป็นเทคโนโลยีการเงินที่แปลกใหม่ มีศักยภาพและมีความโปร่งใสสูงกว่าบริการการเงินที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานก็ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงของ DeFi ให้ดีก่อนตัดสินใจใช้บริการครับ