กำลังเป็นที่สนใจมากขึ้นอีกนะครับสำหรับตลาด Forex เพราะในประเทศไทยเราเพิ่งจะมีข่าวการจับกุมและดำเนินคดีกับดาราสาวอย่างพิงกี้ สาวิกา ไชยเดช นางเอกชื่อดังที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกง Forex3D ที่มีผู้เสียหายกว่า 9 พันรายและคาดว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย
ด้วยเหตุนี้เลยทำให้มีคนหันมาสนใจตลาด Forex มากขึ้น แต่หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าตลาด Forex จะโกงหรือเปล่า? หลอกลวงหรือเปล่า? วันนี้ทาง Gotradehere เลยอยากมาอธิบายกันเลยว่าตลาด Forex ที่จริงแล้วคืออะไรกันแน่ครับ
Forex คืออะไร ?
ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินขนาดใหญ่ครับ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง อย่างเช่น เมื่อเราต้องการแลกเปลี่ยนจากสกุลเงินบาทไทย (THB) ไปเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แต่ส่วนใหญ่ตลาด Forex จะนิยมเทรดคู่สกุลเงินหลักของโลกอย่างเช่น EUR/USD โดยเป็นการเทรดระหว่างสกุลเงินยูโรและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดนี้มีชื่อเต็ม ๆ ก็คือ Foreign Exchange Market หรือแปลตรงตัว ก็คือ ตลากแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยส่วนใหญ่จะเรียกชื่อย่อว่า Forex หรือ FX บ้าง เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่เห็นคำว่าตลาด FX ก็อย่าเข้าใจผิด เพราะไม่ใช่ชื่อย่อของสูตรคณิตศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นชื่อเรียกของตลาด Forex หรือฟอเร็กซ์นั่นเองครับ
ในช่วงก่อนที่จะมีอินเทอร์เน็ตหรือมีการเทรดแบบออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีแค่เพียงผู้ลงทุนกลุ่มใหญ่เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้ครับ อย่างเช่น ธนาคารระหว่างประเทศ, กองทุนป้องกันความเสี่ยง หรือเหล่าเศรษฐีเท่านั้น ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหรือการเทรด Forex นั้นต้องใช้เงินจำนวนมากถึงจะสามารถเข้าถึงตลาดได้
การทำกำไรในตลาด Forex
ในตลาด Forex สกุลเงินมีการปรับขึ้นลงตลอดเวลาครับ เลยทำให้เราสามารถเก็งกำไรได้จากส่วนต่างของราคาได้ แต่เมื่อก่อนนั้นจะต้องมีการแลกเปลี่ยนเงินจริงอยู่บ้าง หรือเป็นการแลกเปลี่ยนของธนาคารหรือนักลงทุนรายใหญ่ จึงต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างเยอะ
ยกตัวอย่าง หากเรามีทุน 330 บาท นำไปแลกได้ 10 ดอลลาร์ในเมื่อก่อนแล้วต้องรอจนเงินบาทอ่อนค่าจนกลายเป็น 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เมื่อเราแลกจากดอลลาร์กลับมาเป็นเงินบาท นั่นหมายถึงเราได้กำไร 30 บาทใช่ไหมครับ มันอาจจะเป็นกำไรที่ดูไม่เยอะ จึงทำให้เมื่อก่อนต้องเป็นธนาคารหรือกองทุนหรือนักลงทุนเจ้าใหญ่เท่านั้นจึงจะคุ้มค่า เพราะต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่เลยทีเดียวถึงจะสามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้
แต่ในปัจจุบัน ด้วยโลกของเราที่พัฒนาเป็นโลกแห่งเทคโนโลยี ทำให้เราสามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้ผ่านการเทรดกับนายหน้าคนกลางหรือที่เรารู้จักกันในนามโบรกเกอร์ (Broker) ที่เปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนหรือเทรดเดอร์รายย่อยแบบพวกเราได้เข้ามาเทรดในคู่สกุลเงินต่าง ๆ ได้ครับ
ข้อดีของตลาด Forex คือเราสามารถทำกำไรได้ 2 รูปแบบ แตดต่างจากการเทรดในตลาดหุ้นโดยตรง เพราะถ้าหากเราซื้อหุ้น เราต้องคาดหวังให้ราคาหุ้นปรับขึ้นสูงอย่างเดียว แต่ Forex เราสามารถทำกำไรได้ทั้งตอนที่ค่าเงินปรับตัวสูงขึ้นและอ่อนลงครับ โดยมีหลักการดังนี้
- เมื่อเราคิดว่าค่าสกุลเงินที่เราเทรดจะปรับตัวอ่อนลง เราจะเปิดออเดอร์ Sell
- เมื่อเราคิดว่าค่าสกุลเงินที่เราเทรดจะปรับตัวแข็งค่า เราจะเปิดออเดอร์ Buy
นอกจากนี้ การเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้นอีกด้วย เพราะโบรกเกอร์จะมีเครื่องมือที่ชื่อว่า Leverage ซึ่งช่วยให้เราสามารถลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่เราลงจริง ๆ เหมือนเรายืมเงินโบรกเกอร์มาเทรดก่อน แต่ไม่ต้องคืนนั่นเองครับ
ปกติการที่เราเทรดนั้นจะไม่ได้ใช้ Leverage หรือมีค่า 1:1 ก็คือ ถ้ามีเงิน 1 ดอลลาร์ นั่นก็แปลว่าเราลงทุน 1 ดอลลาร์จริงๆ แต่ถ้าหากเรานำ Leverage มาใช้ในระดับ 1:100 ก็แปลว่า เรามีเงินทุน 1 ดอลลาร์แต่ลงทุนในการเทรดอยู่ที่ 100 ดอลลาร์เลยล่ะครับ
*คำเตือนสำหรับการใช้ Leverage : ในส่วนของ Leverage อาจจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้นก็จริง แต่ว่าก็เพิ่มโอกาสขาดทุนมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ เพราะฉะนั้นต้องใช้อย่างเหมาะสมและระมัดระวัง ไม่ควรใช้ Leverage สูงเกินจนเรา Overtrade นะครับ
จุดเด่นของตลาด Forex
- เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก
- เป็นตลาดการลงทุนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
- เป็นตลาดที่สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 5 วัน
เหตุผลที่ตลาด Forex เปิดให้เทรดตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ก็เป็นเพราะว่า ช่วงเวลาเปิดทำการของแต่ละประเทศทั่วโลกคาบเกี่ยวกันนั่นเองครับ จึงทำให้เรามีโอกาสเข้าไปเทรดทุกคุ่สกุลเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย แต่ความผันผวนของสกุลเงินส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงเวลาทำการของในประเทศนั้น ๆ ด้วย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินต่าง ๆ ให้ขึ้น-ลงหรือผันผวน
ค่าเงินของแต่ละประเทศใช่ว่าจะนิ่งอยู่เสมอนะครับ เพราะราคามีการปรับตัวขึ้นลงแทบจะตลอดเวลาเลย อย่างประเทศไทยเราที่ตอนแรกอาจจะเคยได้ยินว่า เงินบาทอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปัจจุบันอยู่ที่ 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐแล้วครับ
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินต่าง ๆ ก็มีค่อนข้างหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น
เศรษฐกิจของประเทศ : อันดับแรกเลย คือ ความมั่นคงหรือภาวะเศรษฐกิจในประเทศครับ เราจะสังเกตได้เลยว่า ประเทศไหนที่มีความมั่นคงหรือเป็นมหาอำนาจ ส่วนใหญ่ค่าเงินจะสูงและไม่ค่อยปรับตัวลงมากสักเท่าไหร่
การเมือง : การเมืองก็ส่งผลต่อค่าสกุลเงินเช่นกัน หากประเทศไหนมีการเมืองมั่นคง ส่วนใหญ่ค่าเงินก็จะแข็งค่าครับ เพราะฉะนั้นสกุลเงินบาทของประเทศไทยเราก็จึง… ไม่พูดดีกว่า
เหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์ทางธรรมชาติ : ในบางครั้งก็อาจจะเกิดเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์ธรรมชาติจนส่งผลต่อสกุลเงินนะครับ อย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้าหากเกิดสึนามิหรือแผ่นดินไหว ก็สามารถส่งผลให้ค่าเงินเยนของทางญี่ปุ่นอ่อนค่าลง เพราะนักลงทุนรู้สึกไม่ปลอดภัยครับ
สงคราม : สงครามก็สามารถส่งผลต่อสกุลเงินได้เช่นกัน อย่างในยูเครนและรัสเซียที่ตอนนี้ค่าเงินยูเครนอ่อนมากเลยครับ เพราะสงครามก่อให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัย
สรุปแล้ว การลงทุนในตลาด Forex ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุนนั่นเองครับ ไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด เพราะตลาดนี้มีมาค่อนข้างนานพอสมควร และมีนักลงทุนอยู่ทั่วโลกเลย แต่ที่ควรระวัง คือ ขบวนการของมนุษย์เราที่อาจจะมาฉ้อโกงโดยอาศัยรูปแบบการพูดคุยในลักษณะต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทาง Gotradehere อยากให้ทุกคนทำการศึกษาให้ดีก่อนจะเริ่มลงทุนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงและลดโอกาสการขาดทุนครับ
Source: คุณน้าพาเทรด
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ: Review Broker
ติดตามข่าวสารการลงุทนได้ที่: News