โลกของเราในปัจจุบันล้วนพึ่งพาเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผู้ไม่หวังดีหลายคนใช้ช่องโหว่ของเทคโนโลยีในทางที่ผิด เช่น นำข้อมูลของบุคคลไปใช้ประโยชน์ด้วยการสวมรอยผ่าน E-mail หรือ Social Network ต่าง ๆ และเพื่อเป็นการป้องกัน ทำให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือสำนักงาน ปปง. ออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับให้ลูกค้าแสดงตัวตน หรือ KYC
ทำความรู้จักความหมายและความสำคัญของ KYC
KYC ย่อมาจากคำว่า “Know Your Customer” หรือกระบวนการทำความรู้จักกับลูกค้า เป็นการยืนยันตัวตนในขั้นตอนแรกก่อนการทำธุรกรรมทางการเงิน อธิบายง่าย ๆ ก็เหมือนกับการยื่นบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก หรือ E-Money ครั้งแรก รวมไปถึงเปิดบัญชีเทรดคริปโตผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ด้วย
แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น ก็ทำให้มีขั้นตอนพิสูจน์ตัวตนเพิ่มเข้ามา หรือเรียกว่า KYC Verification โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่
1. การพิสูจน์ตัวตนแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)
การตรวจสอบโดยเห็นหน้าผู้ทำธุรกรรม และยืนยันด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ด้วยการอ่านข้อมูลจากชิปบนบัตร
2. การพิสูจน์ตัวตนแบบไม่เห็นหน้า (Non Face-to-Face)
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธุรกรรมออนไลน์ แต่สามารถพิสูจน์ได้ด้วย e-KYC หรือการยืนยันตัวตนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยการถ่ายบัตรประชาชนและถ่ายรูปตนเอง ซึ่งการเปิดบัญชีผ่านแพลตฟอร์มมักจะใช้วิธีนี้ เพื่อความสะดวกของลูกค้า
KYC ในการเทรดคริปโต
สำหรับในโลกของคริปโต ข้อกำหนดเกี่ยวกับ KYC จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ แต่สำหรับประเทศไทย หากแพลตฟอร์มใดทำ KYC ให้กับลูกค้า ย่อมได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยมีกระบวนการ ดังนี้
1. เก็บรวบรวมข้อมูล
เป็นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ของลูกค้า (PII) รวมถึงชื่อเต็ม, สถานที่, วันเกิด และที่อยู่
2. เปรียบเทียบข้อมูลนี้กับบัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้
เช่น หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ที่รัฐออกให้ และหลักฐานแสดงถิ่นที่อยู่ เช่น บิลค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
3. ตรวจสอบตัวตนของลูกค้า
เป็นการตรวจสอบตัวตนลูกค้ากับฐานข้อมูลอย่างเป็นทางการที่มีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่เปิดเผยทางการเมือง (PEP) และบุคคลที่ถูกลงโทษ
ประโยชน์ของ KYC
- การยืนยันตัวตนผู้ใช้จะเป็นประโยชน์ต่อความโปร่งใส และความไว้วางใจของลูกค้า
- ลดการฟอกเงินและหลอกลวงจาก Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนชั้นนำ การยืนยันตัวตนอย่างจริงจังสามารถลดกิจกรรมการฉ้อโกง และปรับปรุงชื่อเสียงของตลาดได้อย่างมาก
- รักษาเสถียรภาพของตลาด อย่างที่ทราบกันดีว่า ในโลกคริปโตมีข่าวการหลอกลวงมากมายเกิดขึ้น ซึ่งการที่มี KYC มีส่วนทำให้ตลาดมีเสถียรภาพโดยรวม และการเติบโตของมูลค่า
ความเสี่ยงในการซื้อคริปโตโดยไม่มี KYC
สำหรับโบรกเกอร์ที่ไม่มีการดำเนินการ KYC จะถือว่า มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และอาจมีการตรวจพบว่าเป็นแพลตฟอร์มปลอมหรือโดนสั่งปิด ซึ่งนักลงทุนที่ทำการเปิดบัญชีด้วยอาจเสี่ยงโดนโกง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ KYC จะเป็นขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่สำคัญ และน่าเชื่อถือระดับหนึ่งของแพลตฟอร์ม แต่การศึกษาและความรู้สำคัญที่สุดสำหรับการเทรด นอกจากเราจะช่วยเพิ่ มประสิทธิภาพให้กับการเทรดของเราแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำไรอีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News