Table of Contents
Table of Contents

Santa Claus Rally คืออะไร? หุ้นช่วงคริสต์มาส ลงทุนตัวไหนดี ?

Santa Claus Rally คืออะไร? หุ้นช่วงคริสต์มาส ลงทุนตัวไหนดี ?

Santa Claus Rally ปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้น ซึ่งเกิดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี คำถามคือ Santa Claus Rally คืออะไรกันแน่ แล้วปรับตัวขึ้นจริงหรือไม่ อะไรเป็นสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ แล้วควรวางแผนการลงทุนยังไง บทความนี้มีคำตอบให้ครับ

——————–🐣——————–

Santa Claus Rally คืออะไร ?

Santa Claus Rally คืออะไร ?

Santa Claus Rally คือ ปรากฏการณ์ที่เหล่านักลงทุนเชื่อกันว่า ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าลดลงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ลากยาวไปจนถึงช่วงต้นปีใหม่ของปีถัดไป (นับจาก 5 วันทำการสุดท้ายของปีนี้ และ 2 วันทำการแรกของปีถัดไป)

สถิติผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ของดัชนี S&P500 ช่วง Santa Claus Rally

ปีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น/ปี
ปี 2023+2.4 %
ปี 2022-0.2 %
ปี 2021+1.9 %
ปี 2020+3.7 %
ปี 2019+1.1 %
ปี 2018-2.8 %
ปี 2017+1.2 %
ปี 2016-1.5 %
ปี 2015-0.1 % 
ปี 2014+0.6 % 

ที่มา : https://www.macrotrends.net/2526/sp-500-historical-annual-returns

ทำไมหุ้นถึงมีการปรับตัวช่วง Santa Claus Rally ปลายปี

  • Tax-Loss Harvesting หรือ ความต้องการในการลดหย่อนภาษีของนักลงทุน โดยใช้หลักการคือ ปรับพอร์ตการลงทุนด้วยการขายหุ้นที่ขาดทุน ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นกลุ่มนักลงทุนอื่น ๆ จะเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่นั้น ส่งผลให้ราคาตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นในภายหลัง 
  • ความรู้สึกเชิงบวกในช่วงเทศกาล จะช่วยส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงนี้ ซึ่งนักลงทุนหลายคนเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Santa Claus Rally 
  • ช่วงปลายปีถือเป็นช่วงที่เรียกได้ว่า เป็นช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงโบนัสออกของกลุ่มพนักงานและบริษัทต่าง ๆ ทำให้มีเงินทุนเพิ่มสำหรับลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้ทั้งบริษัทได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการใช้จ่ายของประชาชน และปริมาณการซื้อขายในตลาดก็เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพิ่มเติมจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ส่งผลให้เป็นช่วงขาขึ้นของตลาดหุ้นเลยก็ว่าได้
  • Window Dressing คือ การจัดพอร์ตการลงทุนของสถาบันทางการเงินหรือกองทุนใหม่ เพื่อทำให้ผลตอบแทนของกองทุนออกมาดีในช่วงไตรมาสสุดท้ายและเป็นไปตามนโยบายการลงทุน

Santa Claus Rally ส่งผลต่อนักลงทุนอย่างไร

  • ถือเป็นโอกาสในการทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาขึ้น ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่อาศัยการเก็งกำไรในระยะสั้น
  • เป็นช่วงวางแผนและปรับพอร์ตการลงทุนของแต่ละคน เช่น การขายหุ้นที่ขาดทุน หรือการเตรียมซื้อหุ้นที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคต  
  • ความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอน เนื่องจาก Santa Claus Rally เป็นเพียงการคาดการณ์จากกลุ่มนักลงทุนเท่านั้น อาจเกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นแล้ว นักลงทุนจะต้องวางแผนการลงทุนและประเมินความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
  • มีปัจจัยภายนอกที่สามารถส่งผลต่อราคาหุ้นได้แม้ว่าจะอยู่ในช่วง Santa Claus Rally ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ, ข่าวร้ายแรง หรือปัญหาทางการเมือง ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและวางแผนรับมือกับความเสี่ยงให้ดี

Santa Claus Rally ลงทุนหุ้นกลุ่มไหนดี ?

สำหรับ Santa Claus Rally ถือเป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุนหุ้นกลุ่มต่าง ๆ ในดัชนี S&P500 ซึ่งนักลงทุนควรศึกษาพื้นฐานของหุ้นและปัจจัยเศรษฐกิจที่หนุนตลาดในช่วงเวลานั้นควบคู่ไปกับการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ และในช่วงนี้มีหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจดังนี้ครับ 

หมายเหตุ : การแนะนำหุ้นน่าสนใจเป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเพื่อใช้สำหรับการศึกษา ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ความเสี่ยง และสภาพตลาดอย่างรอบคอบ รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลตอบแทนในอดีตไม่รับประกันผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Technology)

Santa Claus Rally ลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Technology)

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงเป็นที่น่าจับตามองในทุก ๆ ช่วงตลอดปีครับ ด้วยเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่ยังคงพัฒนาและก้าวหน้าในทุก ๆ วัน อาทิเช่น AI, ชิปต่าง ๆ หรือแม้แต่ IoT ส่งผลให้รายได้ของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยียังคงเติบโตต่อไปได้ นอกจากนี้ บริษัทกลุ่มเทคโนโลยียังคงมีรายได้จาก subscription-based แบบรายปี ซึ่งเป็นรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคงและมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้งานรายใหม่

นอกจากนี้ยังมีรายงานที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มเทคโนโลยีที่อาจส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังน่าจับตามอง ดังนี้

  • การเติบโตของตลาด AI ตามรายงานล่าสุดของ McKinsey (Global AI Survey 2023) พบว่าองค์กรทั่วโลกกำลังเร่งการลงทุนใน AI โดย 40% ของบริษัทที่สำรวจวางแผนเพิ่มการลงทุนด้าน AI ในปี 2024
  • การเติบโตของรายได้แบบ Subscription: จากรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Microsoft (Q1 2024) พบว่ารายได้จาก Cloud Services และ Office 365 Commercial เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจแบบ subscription
  • การขยายตัวของตลาด Cloud Computing: ข้อมูลจาก Gartner (October 2023) คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้าน Public Cloud Services ทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากการทำ Digital Transformation ขององค์กรต่างๆ

แนะนำหุ้นที่น่าสนใจกลุ่มเทคโนโลยี

  • Apple (AAPL) : บริษัทมีรายได้จาก iPhone, Apple Watch และบริการเสริม อาทิเช่น Apple Music, และ iCloud นอกจากนี้ยังมีสัญญาณการฟื้นตัวจากยอดขายที่ลดลงในตลาดจีน ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการพัฒนาควบคู่กับ AI ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า Apple จะมีรายได้ 94,580 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งคิดเป็น 5.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้หุ้น AAPL น่าสนใจครับ 
  • Microsoft (MSFT) : ถือว่ายังคงน่าจับตามองในช่วงท้ายปี 2024 ซึ่งทางนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาหุ้นอาจเพิ่มขึ้นสู่ 490 ดอลลาร์ (ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 423.07 ดอลลาร์) ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI และ Cloud Service ซึ่งทาง Microsoft เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองในด้านนี้และกำลังเร่งพัฒนาบริการต่าง ๆ  
  • NVIDIA (NVDA) : ยังคงมีความต้องการสูงในด้านการใช้งาน GPU สำหรับ AI, เกม และการประมวลผลขั้นสูง โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 บริษัททำรายได้ 30,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หุ้นกลับลดลง 7% แม้ผลประกอบการจะดีขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม NVIDIA ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตจากการพัฒนาชิป AI รุ่น Blackwell ซึ่งหากเสร็จสมบูรณ์ อาจส่งผลให้ราคาหุ้นเติบโตขึ้นในอนาคต  

หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น (Consumer Discretionary)

Santa Claus Rally ลงทุนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น (Consumer Discretionary)

ทำไมหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็นถึงน่าสนใจในช่วง Santa Claus Rally

เนื่องด้วยพฤติกรรมด้านการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาล (holiday spending) รวมถึงแคมเปญจากทาง E-Commerce ที่เข้ามาซัพพอร์ตผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายปี อาทิเช่น สินค้าด้านความบันเทิง, ของตกแต่งบ้าน, เสื้อผ้าแฟชั่น หรือของขวัญต่าง ๆ ซึ่งนักลงทุนหลายคนคาดว่า ผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้จะมีผลประกอบการที่ดีในไตรมาสที่ 4 ครับ

แนะนำหุ้นที่น่าสนใจกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น

  • Amazon (AMZN) : ครองตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ โดยมีการขายสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วง Black Friday และ Cyber Monday ซึ่งช่วยสนับสนุนให้บริษัทได้รับผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง Amazon มีรายได้เติบโตถึง 12.32% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ทำรายได้ไปถึง 604.33 พันล้านดอลลาร์  
  • eBay Inc. (EBAY) : เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce เช่นเดียวกันกับ Amazon โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์อยู่ที่ 30.8 พันล้านดอลลาร์ และทางบริษัทได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดที่ 2.58 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 634 ล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาหุ้น EBAY อาจปรับตัวสูงถึง 72.00 ดอลลาร์ ในอนาคต

สำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจอยากลองเทรดหุ้นต่างประเทศ ทีมงาน Gotradehere ขอแนะนำโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ สเปรดต่ำ ไม่แกว่ง มี Free Swap ที่สำคัญ ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้งาน อย่างโบรกเกอร์ IUX นั่นเองครับ

โบรกเกอร์แนะนำจากทีมงาน
GoTradeHere
สเปรดเริ่มต้น 0.2 Pips

Leverage สูงสุด : 1:3000
ฝากขั้นต่ำ : $10
Free Swap

โบรกเกอร์ IUX
IUX.com

โบรกเกอร์ IUX ถือว่ามี CFD หุ้นต่างประเทศที่ค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น AMZN, ADBE, EA, JNJ, NFLX, NVDIA, TSLA หรือแม้แต่ VISA ครับ นอกจากนี้ยังมีประเภทบัญชีที่ค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์เทรดเดอร์ทุกสไตล์ และมีซัพพอร์ตที่คอยดูและตลอด 24/7 ครับ
เทรดเดอร์สามารถอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่เลยครับ : คลิกอ่านรีวิว IUX 

——————–🐣——————–

Santa Claus Rally คือ ปรากฏการณ์ที่นักลงทุนเชื่อกันว่า ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่จะปรับตัวลดลง โดยมักจะเริ่มในช่วง 5 วันสุดท้ายของปีลากยาวไปจนถึง 2 วันแรกของปีถัดไป โดย Santa Claus Rally เป็นเพียงความเชื่อและทฤษฎีที่เหล่านักลงทุนเก็บข้อมูลมาเท่านั้น ไม่ได้มีการยืนยันว่าราคาหุ้นจะมีการปรับตัวสูงขึ้นตลอดทุกปีในช่วงนี้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถส่งผลต่อราคาหุ้นได้ครับ และสำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าจะได้รับอิทธิพลของ Santa Claus Rally ได้แก่

  • หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Technology) 
  • หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่จำเป็น (Consumer Discretionary)

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เทรดเดอร์ควรวางแผนการลงทุนและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดการขาดทุนจากความผันผวนของราคาหุ้นครับ สุดท้ายนี้ บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลสำหรับศึกษาและใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่บทความแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด ทีมงาน Gotradehere หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยคแก่ตัวนักลงทุนไม่มากก็น้อยครับ 


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –