Smart Contract คืออะไร ? หัวใจสำคัญของ “Blockchain”

Smart Contract คืออะไร ? โลกในปัจจุบันเป็นยุคที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากมาย และแน่นอนว่า สินทรัพย์ที่เราลงทุนก็มีให้เลือกมากขึ้นหลายอย่างด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคริปโต ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ และหากพูดถึงคริปโต ก็คงตามมาด้วยคำว่า “Blockchain” และ “Smart Contract” ทั้งสองก็เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของ Blockchain ซึ่งถ้าหากขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่ง Blockchain คงไม่น่าสนใจเท่าที่ควร สำหรับบทความนี้จะขออธิบายว่า Smart Contract คืออะไร ? และมีความเกี่ยวข้องอย่างไร หากพร้อมแล้วไปอ่านพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

ต้นกำเนิดของ Smart Contract

Smart Contract มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สัญญาอัจฉริยะ ถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1994 โดยนาย Nick Szabo ผู้คิดค้น Bit Gold สกุลเงินเสมือน (Virtual Currency) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นแบบของ Bitcoin ซึ่ง Smart Contract เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่รันเป็นโค้ดใน Blockchain มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้งานในการทำสัญญาต่าง ๆ ครับ

Nick Szabo ยังได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า Smart Contract เป็นโปรโตคอลธุรกรรมที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ โดย Smart Contract จะดำเนินการทำตามเงื่อนไขโดยอัตโนมัติ หากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ถูกดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

💡 รู้หรือไม่ ? Blockchain แพลตฟอร์มแรกที่มีการรองรับ Smart Contract คือ Ethereum ซึ่งมีการรองรับครั้งแรกเมื่อปี 2015

Smart Contract คืออะไร ?

Smart Contract คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีการดำเนินการอยู่บน Blockchain โดยการจัดทำสัญญา Smart Contract จะมีการกำหนดเงื่อนไข และข้อตกลงไว้ล่วงหน้า โดยที่สัญญาจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดไว้เป็นจริงเท่านั้น ทำให้ Smart Contract มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “สัญญาอัจฉริยะ” นั่นเองครับ

สัญญานี้แตกต่างจากสัญญาทั่วไป คือ เราสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และกระจายสำเนาไปถึงทุกคนในระบบให้ตรวจสอบกันเองแบบไม่มีตัวกลาง จุดแข็งของสัญญาอัจฉริยะ คือ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสัญญานี้ได้ทั้งนั้น และจะต้องทำตามสัญญาโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเป็นโค้ดที่มีการเขียนไว้แล้ว

การทำงานของ Smart Contract

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า Smart Contract ทำงานตามเงื่อนไขหรือสัญญาที่เขียนโค้ดเข้ารหัสไว้บน Blockchain โดยคู่ค้าจะกำหนดเงื่อนไขสัญญาไว้ก่อน จากนั้นจะทำการเปลี่ยนเป็นโค้ด และกระจายข้อมูลไปยังโหนดคอมพิวเตอร์ของเครือข่าย เพื่อให้ทุกคนในระบบสามารถตรวจสอบได้ เมื่อเงื่อนไขถูกตรวจสอบแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้อีก

ตัวอย่างการใช้ Smart Contract ในชีวิตประจำวัน

Smart Contract กับการเงิน

ส่วนใหญ่แล้วนักพัฒนาจะใช้ Smart Contract เพื่อทำสัญญาในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยมีลักษณะเหมือนระบบการเงินเดิม แต่จะไม่มีตัวกลาง ทำให้เกิดแพลตฟอร์ม Decentralized Finance ที่ทำงานเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือ เช่น Compound (แพลตฟอร์มสำหรับกู้ยืม) ใช้ Smart Contract ทำสัญญากู้ยืมคริปโตระหว่างผู้ใช้งานกับแพลตฟอร์ม

Smart Contract กับอสังหาริมทรัพย์

ตั้งแต่ปี 2016 สาธารณรัฐจอร์เจีย ได้ประยุกต์เอาเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาพัฒนาการทำสัญญาโฉนดที่ดิน นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ที่ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยซื้อขายด้วยโทเค็น หรือคริปโต และได้รับความสำเร็จมากมาย เช่น RealT เป็นต้น

Smart Contract กับทางการแพทย์

โดยส่วนใหญ่ Smart Contract จะถูกใช้งานเกี่ยวกับการเงิน แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ในทางการแพทย์ก็มีการนำเทคโนโลยีตัวนี้เข้ามาเป็นตัวช่วยเก็บรักษาข้อมูลของผู้ป่วย และข้อมูลที่มีความลับ เช่น งานวิจัยและผลการรักษา เพื่อไม่ให้รั่วไหลออกจากองค์กร

ข้อดีและข้อเสียของ Smart Contract คืออะไร ?

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Smart Contract

Blockchain คืออะไร ?

➢ Blockchain คือ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลโดยไร้ตัวกลางมีลักษณะเป็นเครือข่าย และมีความปลอดภัยสูงครับ

Smart Contract มีเหรียญอะไรบ้าง ?

➢ Smart Contract ไม่ได้มีเหรียญที่เป็นของตนเองโดยตรงครับ แต่จะทำงานอยู่บน Blockchain ที่มีการสร้างเหรียญเป็นของตัวเอง โดยเหรียญที่มีการรองรับ Smart Contract ได้แก่ Ethereum (ETH), Solona (SOL) และ Binance Smart Chain (BNB) เป็นต้น

Smart Contract กับ Blockchain แตกต่างกันอย่างไร ?

➢ Smart Contract และ BlockChain มีการทำงานที่เกี่ยวข้องกันอย่างเป็นระบบครับ แต่ก็มีข้อแตกต่างกันดังนี้ 

• BlockChain เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่มีการเข้ารหัส
• Smart Contract เป็นโปรแกรมที่ทำงานอยู่บน Blockchain โดยมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ล่วงหน้า เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขแล้ว สัญญาก็จะเริ่มดำเนินการโดยอัตโนมัติ

สรุป Smart Contract คืออะไร ?

Smart Contract ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญ และเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกหลายอย่างในชีวิตประจำวัน และดูเหมือนว่า การใช้งาน Smart Contract จะแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังเป็นเพียงการใช้งานเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึง Smart Contract มากนักครับ ก็คงต้องรอดูต่อไปว่า ในอนาคตนักพัฒนาจะสามารถปรับปรุงให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงทุกคนได้หรือไม่

แม้ Smart Contract จะมีประโยชน์และข้อดีมากมาย แต่ก็อย่าลืมไปว่า Smart Contract ถูกเขียนขึ้นด้วย Code ซึ่งในส่วนนี้อาจจะทำให้มีข้อผิดพลาดหรือช่องโหว่เกิดขึ้นได้ ซึ่งช่องโหว่เหล่านี้ก็อาจจะเป็นช่องทางที่ทำให้แฮกเกอร์ใช้โจมตี และขโมยสินทรัพย์ของคุณได้ง่าย ๆ เช่นกันครับ

⚠️ หากคุณกำลังพิจารณาที่จะใช้ Smart Contract ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำก่อนเริ่มใช้งานครับ ⚠️